ตอนที่ 219 : สมรู้ร่วมคิด
537 Views
เมื่อยี่ เทียนหยุนคิดที่จะพูดอะไรบางสิ่งบางอย่างออกไป ผู้อาวุโสใหญ่ก็ออกมายืนบังหน้าของเหอ เชียนหาน เขาจ้องมองไปที่ผู้อาวุโสสอง แล้วก็พูดขึ้นมาว่า ” นี่เจ้าจะเอาอย่างนี้จริงๆเรอะ ?? ความปรารถนาสุดท้ายของซวน เทียน (ความลับสวรรค์) ขั้นกษัตริย์ เจ้าจะไม่เต็มใจยอมรับมันนะรึ แต่ชายชราผู้นี้เต็มใจที่จะยอมรับ ว่าเขาคือผู้สืบทอดของซวน เทียน (ความลับสวรรค์) ขั้นกษัตริย์ หากว่าเขาเต็มใจที่จะมอบทักษะเทวะนี้เท่านั้น หากว่าไม่แล้ว จะไม่มีใครที่สามารถบีบบังคับเขาได้แม้แต่นิดเดียว !! ท่านซวน เทียนได้กล่าวไว้แล้วว่า ทักษะนี้เขาจะผ่านมันให้กับศิษย์ของตัวเองเพียงเท่านั้น จะไม่มอบให้กับผู้อื่น ถ้าเรื่องมันเป็นอย่างนี้ ท่านก็จะต้องมีเหตุผลของท่าน !! ”
แน่นอนว่าเหตุผลนี้ ยี่ เทียนหยุนย่อมต้องรู้อย่างแน่นอน เขารู้ว่าทักษะเทวะซวน เทียน (ความลับสวรรค์) ขั้นกษัตริย์นี้ เป็นทักษะเคล็ดวิชาที่ไม่สมบูรณ์ !! หากคิดที่จะฝึกก็ย่อมต้องมีเนื้อหา หมายความว่าเมื่อผู้ฝึก ฝึกฝนจนไปถึงขั้นวิญญาณแล้ว ทุกอย่างก็เป็นอันจบ ถึงแม้ว่าผู้ฝึกฝนจะมีฐานพลังที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากก็ตามที แต่ซวน เทียนก็ยังไม่พอใจในทักษะของเขาอยู่ดี
ดังนั้นแล้วผู้ที่จะทำการฝึกฝนทักษะเทวะซวน เทียนนี้ได้ จึงถูกจำกัดเอาไว้ มันไม่เหมาะสมที่จะถ่ายทอดให้กับบุคคลที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากถ่ายทอดให้กับศิษย์ของคฤหาสน์ยอดสวรรค์แล้ว มันก็การง่ายจะก่อให้เกิดปัญหาตามมา ด้วยเงื่อนไขของมันนี้ ทำให้ไม่มีใครที่จะสามารถฝ่าไปถึงมาตรฐานที่กำหนดเอาไว้ได้ มีเพียงแต่จะส่งมอบให้กับศิษย์ที่เห็นสมควรเพียงเท่านั้น ซึ่งไม่แน่ว่า ทักษะเทวะของซวน เทียนผู้นี้ อาจจะได้รับการปรับปรุงในรุ่นถัดไปก็เป็นได้
หากจะให้พูดตรงๆเลยก็คือ สู้ทำลายศิษย์ของตัวเองซะยังจะดีกว่า บรรดาศิษย์คนอื่นๆรวมไปถึงลูกหลานของตนเองก็จะได้ไม่พลอยโดนลูกหลงหรือได้รับความอันตรายจากการฝึกไปด้วย
” ผู้อาวุโสใหญ่ สิ่งที่ท่านทำเพื่อคฤหาสน์ยอดสวรรค์นี่ มันถูกต้องแล้วอย่างงั้นหรือ ?? ” สายตาของผู้อาวุโสสองเอ่ยถามอย่างเย็นชา แล้วเขาก็พูดอย่างเคร่งขรึมต่ออีกว่า ” นับประสาอะไรกับข้า แม้กระทั่งท่านประมุขแห่งคฤหาสน์ ท่านก็จะต้องทำอย่างนี้เช่นเดียวกัน นานมาแล้วที่พวกเราก็เคยคิดกันว่า แท้ที่จริงแล้ว ทักษะระดับเทวะของซวน เทียน (ความลับสวรรค์) ขั้นกษัตริย์นี้ ไปแพร่กระจายอยู่ที่ไหนหนอ หากว่าสมาชิกของท่านซวน เทียนยังคงมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันนี้ เขาจะต้องเลือกที่จะสนับสนุนพวกเราอย่างแน่นอน !! ”
ด้วยการพูดอย่างคล่องแคล่ว ฟังดูดีมีเหตุผลนี้ ประดุจมีความชอบธรรมอันแรงกล้า คำก็คฤหาสน์ สองคำก็คฤหาสน์ ดูเหมือนว่าทั้งหมดทั้งมวลที่ทำลงไปนี้ นี่ก็เพื่อคฤหาสน์ยอดสวรรค์
” ผู้อาวุโสสอง นี่ท่านคิดว่าข้าไม่รู้เหรอว่าท่านำลังคิดอะไรอยู่นะ แน่ใจนะว่าที่ท่านทำลงไปมันไม่มีอะไรนะ หลายปีมานี้ท่านไม่สามารถที่จะเลื่อนระดับพลังของตัวเองขึ้นมาได้ ท่านก็เลยคิดที่จะครอบครองทักษะเทวะซวน เทียน (ความลับสวรรค์) ขั้นกษัตริย์นี้ !! ” เหอ เชียนหานเปิดเผยให้เห็นถึงความคิดภายในของพวกเขา ” พวกเราควรที่จะรักษาคำป่าวประกาศอย่างเป็นทางการของท่านบรรพบุรุษ ทั้งนี้ก็เพื่อคฤหาสน์ยอดสวรรค์ด้วย แต่นี่แม้กระทั่งความปรารถนาสุดท้ายของท่านบรรพบุรุษ ท่านก็ยังจะไม่เคารพอย่างงั้นเรอะ ?? และถ้าหากว่าท่านเกิดได้รับทักษะเทวะซวน เทียนนี้ขึ้นมาจริงๆ ท่านเต็มใจที่จะแชร์สิ่งนี้กับศิษย์คนอื่นๆเช่นนั้นหรือ ??
” แน่นอนว่าข้าย่อมทำ ตราบใดที่พรสวรรค์ของศิษย์คนนั้นน่าทึ่งเพียงพอ ก็เพียงพอที่จะให้ศิษย์คนนั้นฝึก นี่จะทำให้บรรดาศิษย์สามารถที่จะบ่มเพาะเคล็ดวิชาทักษะเทวะซวน เทียน (ความลับสวรรค์) ขั้นกษัตริย์นี้ได้ !! ” ผู้อาวุโสสองยังคงหยิบยกความชอบธรรมอย่างแรงกล้าขึ้นมาพูด
” คอยเดี๋ยว ” ณ วินาทีนี้ยี่ เทียนหยุนก็ได้พูดขึ้นมา เขายื่นแขนออกมาเป็นเชิงห้ามปรามการทะเลาะโต้เถียงกันระหว่างทั้งสอง จึงทำให้เป็นจุดสนใจของผู้คน ” เจ้าพูดมาตั้งมากมาย แต่ไม่มีปัญหาระหว่างเจ้ากับข้า เจ้าจะทำเพื่อคฤหาสน์หรืออะไรก็ช่าง ณ ตอนนี้ข้าคือ ผู้สืบทอด มีแต่ข้าเท่านั้นที่รู้วิธีการของทักษะเทวะซวน เทียนนี้ ข้าจะไม่มอบมันให้กับเจ้า ทั้งหมดมันจะต้องขึ้นอยู่กับอารมณ์ของข้า เข้าใจไหม ?? “
” วางใจเถอะ ข้ามีตั้ง 100 วิธีที่จะสามารถบีบบังคับให้ตัวเจ้าพูดออกมาได้ !! ” ความเหี้ยมโหดอำมหิตวาบผ่านนัยน์ตาทั้ง 2 ข้างของผู้อาวุโสสองอย่างรวดเร็วและแผ่วเบา
” ข้าก็มี 100 วิธีที่จะทำให้เจ้ากลายเป็นครึ่งผีครึ่งคน ” ยี่ เทียนหยุนพูดเยาะเย้ยออกมา ” หากว่าเจ้าแน่จริงก็ไม่ลองเข้ามาดูละ ?? ” ยี่ เทียนหยุนก้าวไปข้างหน้า และเขาก็ก้าวมาถึงผู้อาวุโสใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหน้าของตัวเขา ส่งสัญญาณมือบอกใบ้ผู้อาวุโสทั้ง 2 ให้เริ่มลงมือ
” ช่างสามหาวซะจริงๆ ไม่คิดเลยว่าทักษะเทวะของซวน เทียน (ความลับสวรรค์) ที่เป็นถึงขั้นกษัตริย์ จะได้รับสืบทอดโดยคนที่เสียเปล่าเช่นเจ้า !! ก็ในเมื่อมันเป็นเช่นนี้ วันนี้ ข้าก็จะทำความสะอาดตัวแปดเปื้อนเช่นเจ้าเพื่อที่จะกรุยทางไปสู่ประตูแห่งทักษะลับ !! ” ผู้อาวุโสสองยิ้มอย่างเย็นชา เขาพุ่งตัวออกไปหมายที่จะตรงเข้าบดขยี้ยี่ เทียนหยุนด้วยอัตราความเร็วขั้นสูงสุด เขายกมือของเขาขึ้น พลันฝ่ามือก็เปลี่ยนเป็นกรงเล็บเหยี่ยวหมายที่จะเข้ายึดจับ การเข้าจู่โจมของเขาราวกับพายุเฮอร์ริเคนที่พัดเข้ามา
ผู้อาวุโสใหญ่ก็เข้ามากำบังยี่ เทียนหยุนเอาไว้อย่างรวดเร็ว แล้วก็พูดออกมาอย่างเย็นชาว่า ” อาวุโสสอง ให้ข้าช่วยทำให้เจ้าสงบเอง !! ”
” ผู้อาวุโสใหญ่ ดูเหมือนว่าท่านจะมัวแต่โง่งมงายยึดติดอยู่กับสิ่งเดิมๆ ถ้าอย่างงั้นก็ได้โปรดอยู่กับความอัปยศตกต่ำต่อไปเถอะ !! ” ผู้อาวุโสสองไม่ให้ความสนใจผู้อาวุโสใหญ่ ออร่าของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรงแทบจะในทันใด หากจะให้เปรียบเทียบกับก่อนหน้านี้แล้ว มันใหญ่กว่าถึง 1 ช่วงขั้น นี่หมายความว่าเขาระเบิดพลังออกมา อย่างเต็มกำลังแล้ว
แต่ฝั่งของผู้อาวุโสใหญ่ก็ระเบิดพลังออกมาเช่นเดียวกัน ในตอนนี้เขายืนอยู่หน้าของยี่ เทียนหยุน การกระทำของผู้อาวุโสใหญ่ชัดเจนว่าเป็นการให้การสนับสนุนความปรารถนาสุดท้ายของบรรพบุรุษซวน เทียน
” ท่านปู่ อาการบาดเจ็บของท่าน….. ” มู่ เซียนเอ๋อร์ที่อยู่ใกล้ถึงกับอุทานเสียงดังออกมา
เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายกำลังเตรียมตัวที่จะต่อสู้กันอยู่นั้น ทันใดนั้นร่างๆหนึ่งก็พุ่งออกมา เขาสะบัดมือตบตรงไปที่หน้าของผู้อาวุโสสอง
” !!! ”
เสียงอันน่าอภิรมณ์ยินดีก็ดังขึ้นอย่างชัดเจน มันก้องไปทั่วทั้งอารามหลักแห่งนี้ ผู้อาวุโสสองที่ถูกฝ่ามือของยี่ เทียนหยุนก็กระเด็นลอยไปชนกับกำแพง ฝังอยู่ข้างใน จากนั้นก็หล่นลงมาตกจากกำแพง เลือดยังคงไหลออกปาก ศีรษะกลายเป็นโค้งงอบิดเบี้ยวผิดรูปจนเอี้ยงไปข้างหนึ่ง ราวกับถูกตีจนบิดเบี้ยว
” ความหมายแรก ก็คือการตบหน้าเจ้านี่ยังไง !! เมื่อเร็วๆนี้ข้าก็ใช้การตบหน้านี่แหละ คนบางคนจริงๆแล้วหากไม่รับการตบหน้าซะบ้าง มันก็คงไม่ดี หนังหน้าจะได้ย้อนกลับไปสู่ความหนาที่แท้จริงของมัน พันธะหน้าที่อะไรต่างก็เมินเฉยได้โดยไม่กระพริบตา ”
ยี่ เทียนหยุนค่อยๆเดิน ด้วยสปีดอันน่าทึ่งของเขา ทำให้พวกเขาทั้ง 2 ยังไม่ทันที่จะได้ตอบสนองซะด้วยซ้ำไป นี่เขาเคลื่อนไหวอย่างนั้นได้อย่างไร !!
ผู้อาวุโสสองพยายามที่จะคลานออกมาอย่างยากลำบาก เขาร้องตะโกนเสียงดังออกมาว่า ” ไอ้ลูกหมาเอ้ย จะให้ข้าตายอย่างงั้นเรอะ !! ” จนในที่สุดเขาก็ตบพื้น เร่งพลังที่อยู่ในขั้นแก่นวิญญาณอีกครั้งหนึ่ง เร่งความเร็วจนถึงขีดสุด ขับเคลื่อนเข้าหายี่ เทียนหยุน ดูราวกับเสือร้ายที่พุ่งตรงมาที่นี่
ประกายแสงแห่งไอเย็นวูบผ่านนัยน์ตาของยี่ เทียนหยุน เขาเร่งพลังเทคตัวออกจากพื้น หมายที่จะบุกตะลุย เข่นฆ่าผู้อาวุโสสองที่อยู่ตรงหน้าด้วยสปีดที่เร็วกว่านรก เขาเหวี่ยงขาออกไปอย่างรุนแรง หมายที่จะเตะผู้อาวุโสสอง ลำพังแค่สปีดนี่ก็เร็วประดุจสายฟ้าแล้ว จึงทำให้ผู้คนที่อยู่ที่นี่ ต่างก็เห็นอะไรไม่ถนัดไม่ได้ชัดเจน
” แปงง !! “
ผู้อาวุโสสองราวกับลูกบอลยาง เขากระเด็นลอยไปด้วยลูกเตะอันหนักหน่วง ชนเข้ากับกำแพง ร่างของเขาปรากฏรอยยุบบริเวณหน้าอก ซี่โครงก็ไม่รู้ว่าถูกเตะจนหักไปกี่ซี่
” ความหมายที่ 2 นั่นก็คือการไล่กระทืบเจ้า !! “
ยี่ เทียนหยุนเดินหน้ามุ่งเข้าหาผู้อาวุโสสองที่อยู่ทางฝั่งโน่น การกระทำของยี่ เทียนหยุนถึงกับทำให้เหอ เชียนเหอกลายเป็นสะดุ้ง หวาดกลัว พลังของยี่ เทียนหยุนดูน่าสะพรึงเป็นอย่างมาก เขาสามารถที่จะกำราบผู้อาวุโสสองลงได้อย่างง่ายดาย !! ฐานพลังของผู้อาวุโสสองคืออะไร นั่นก็คือฐานพลังที่อยู่ในขั้นแก่นวิญญาณระดับ 4 ผู้อาวุโสสองคนนี้กลับถูกกดขี่ลงได้อย่างง่ายดาย นี่ก็หมายความว่า ฐานพลังของเด็กหนุ่มผู้นี้ จะอยู่ในขั้นแก่นวิญญาณหรอกรึนี่ ??
” ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย….. ” ผู้อาวุโสสองไม่มีแรงขนาดจะยกมือขึ้น เขาบอกใบ้ผู้อาวุโสสามให้รีบเข้ามาช่วย
ปฏิกริยาของผู้อาวุโสสาม ณ เวลานี้ก็พลันตอบสนอง เขามองดูยี่ เทียนหยุนอย่างแตกตื่น ” เจ้าเด็กคนนี้ฝึกฝนทักษะลับของซวน เทียน (ความลับสวรรค์) ขั้นกษัตริย์ได้อย่างสมบูรณ์แล้วหรือนี่ หรือแม้กระทั่งมันอาจจะมีสมบัติซุกซ่อนอยู่ภายในตัวของมันอยู่ก็เป็นได้ หากมิฉะนั้นแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าเด็กคนนี้จะสามารถบรรลุถึงขั้นนี้ได้อย่างแน่นอน….. ”
ผู้อาวุโสสามนำจี้หยกออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็บดขยี้มันทิ้ง เขาจ้องมองยี่ เทียนหยุนแล้วก็พูดว่า ” เจ้าหนุ่ม ดูเหมือนว่าข้าจะดูถูกเจ้ามากจนเกินไป แต่ถึงยังไง ครั้งนี้เจ้าไม่รอดแน่….. ” เขาเลียริมฝีปาก ดูราวกับกำลังจ้องสมบัติชิ้นนี้อยู่
เสียงเพิ่งจะจบลง ร่างเป็นจำนวนมากก็หลั่งไหลกรูกันเข้ามา จาก 4 ทิศบ้าง 8 ทิศบ้าง คนกลุ่มนี้สวมใส่เสื้อผ้าสีดำ มิอาจที่จะมองเห็นรูปร่างที่แท้จริงของเขาได้ แต่ออร่าที่เขาส่งออกมานั้น มันบ่งบอกว่าพวกเขาต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นแก่นวิญญาณ
” น….. นี่ นี่คือการ์ดเงา จักรพรรดิใต้พิภพ !!! ” ผู้อาวุโสใหญ่อุทานออกมาด้วยความโกรธ (เสียงดัง) ” จ….. เจ้า ไม่คิดมาก่อนเลยว่า นี่เจ้าสมรู้ร่วมคิดกับคนของจักรพรรดิใต้พิภพหรือนี่….. ถ้าอย่างงั้น 2 วันที่ผ่านมา ผู้ที่ลอบโจมตีข้าแล้วไม่สำเร็จ มันผู้นั้นก็คือ การ์ดเงาเหล่านี้ละซินะ !! ”
” ฮ่าๆฮ่า ผู้อาวุโสใหญ่ ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้โง่เหมือนกันนี่ ครั้งที่แล้วที่พวกเราลอบโจมตีท่าน แต่ท่านกลับไม่ตาย ก็นับว่าท่านยังมีโชคอยู่บ้าง จึงทำให้แผนการควบคุมคฤหาสน์ยอดสวรรค์ของพวกเรา จำต้องเลื่อนออกไปก่อน พวกเราถึงจะลงมืออีกครั้งหนึ่ง แต่ไม่คิดเลยว่าผู้สืบทอดแห่งซวน เทียน (ความลับสวรรค์) ขั้นกษัตริย์จะปรากฏตัวออกมา ช่างมาได้ถูกที่ถูกเวลาจริงๆ เท่านี้แผนการทุกอย่างก็เป็นอันสมบูรณ์ !! ” ผู้อาวุโสพูดเยาะเย้ย ” หากถึงเวลานั้น ข้าจะได้ส่งมอบทักษะระดับเทวะซวน เทียน (ความลับสวรรค์) นี้ให้แก่จักรพรรดิใต้พิภพ ข้าจะต้องได้รับประทานรางวัลเป็นอันมากอย่างแน่นอน
” แล้วท่านประมุขละ….. ” สีหน้าของผู้อาวุโสใหญ่กลายเป็นซีดขาว
” ท่านประมุขนะเรอะ ?? ” อาวุโสสองพูดยิ้มเยาะขึ้นว่า ” เขาถูกพวกเราควบคุมตัวเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เจ้าคงจะคิดว่าท่านปิดตนฝึกวิชาอยู่ละซินะ ?? เส้นชีพจรลมปราณของท่านล้วนแตกหักได้รับความเสียหายหมดแล้ว เรานำเขาคุมขังเอาไว้ ณ ห้องใต้ดิน….. เขาไม่เต็มใจที่จะยอมจำนน ก็จะต้องประสบกับโชคชะตาเช่นนี้ !! ”
” จ….. เจ้า พวกเจ้าก่อกบฏ !! ” สีหน้าของผู้อาวุโสใหญ่กลายเป็นแดงก่ำ พลันเขาก็กระอักออกมาเป็นเลือด นี่ชัดเจนว่าเขาได้รับบาดเจ็บภายในอย่างสาหัส
” ท่านปู่….. ” มู่ เซียนเอ๋อร์รีบวิ่งมาพยุงปู่ของเธอเอาไว้
ยี่ เทียนหยุนเหลือบตามองดูผู้เชี่ยวชาญที่รายล้อม เขาแย้มยิ้มพูดขึ้นมาว่า ” ก็แค่พวกคลื่นประสบการณ์….. ต้องการที่จะมีส่วนแบ่งในมรดกของซวน เทียน (ความลับสวรรค์) ขั้นกษัตริย์อย่างงั้นรึ พวกเจ้าต้องมาตกตายภายใต้การสั่งสอนของข้านี่ ก็นับว่าดีแล้ว ข้าคงจะต้องกวาดล้างไอ้พวกที่เป็นทางผ่าน ให้มันสิ้นซากไปซะ !! ”