ตอนที่ 178 : การสบประมาท
510 Views
” รางวัลในครั้งนี้ช่างยอดเยี่ยมนัก ” จู เทียนหงพยักหน้า เขาหันมาพูดกับยี่ เทียนหยุนว่า ” รางวัลลำดับที่ 1 ถึง 3 ล้วนยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก ตราบใดที่เจ้าสามารถที่จะติด 1 ใน 3 ได้ รางวัลที่ได้รับก็จะตกเป็นของเจ้า ข้าจะไม่แย่งของของเจ้าแม้แต่นิดเดียวอย่างแน่นอน ”
ยี่ เทียนหยุนพยักหน้า นี่คือหนึ่งในข้อตกลงของเขา หากว่าพวกเขาปฏิเสธ ก็อย่าหาว่าเขาหยาบคายก็แล้วกัน
เสียงของผู้คนก็ดังขึ้นในเวลาต่อมา หลังจากที่หลี เทียนหลง เริ่มที่จะประกาศหัวข้อในการแข่งขันออกมา
” อืม ของรางวัลก็พูดไปแล้ว ณ ตอนนี้ข้าก็จะเริ่มประกาศหัวข้อแรกที่จะใช้ในการแข่งขันทดสอบอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ ความเข้มข้น !! ” หลี เทียนหลงกวาดสายตามองไปยังผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด พร้อมกับกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า ” วาดอักษรรูน ออกมา จะใช้ทักษะอะไรก็ได้ แต่จะต้องรวดเร็วอย่างเต็มกำลังความสามารถ ไม่อนุญาตให้ชักช้าจนเกินไปได้ จะต้องไม่มีความคลาดเคลื่อน พลังวิญญาณที่ปลดปล่อยจะต้องเข้มแข็ง !! หากมิฉะนั้นแล้ว นี่อาจจะเป็นสาเหตุของความล้มเหลวได้ ”
” ด่านทดสอบแรก ทดสอบอัตราส่วนความเข้มข้นของพลังวิญญาณ ไม่คำนึงว่าเจ้าจะวาดเกรดอะไรออกมา ข้าจะดูจากความเข้มข้นของอักษรรูนที่ถูกวาดออกมา มีเพียงความเข้มข้นที่สูงกว่าเท่านั้น จึงจะสามารถสนับสนุนได้มากกว่า ข้อนี่ข้าเชื่อว่าทุกๆคนคงจะเข้าใจได้อย่างชัดเจน โดยทั่วไปแล้ว อักษรรูนนี้จะจารลงบนชุดเกราะ เพื่อที่จะนำไปใช้ ว่าอักษรรูนที่วาดลงไป มันจะสามารถช่วยต้านทานการโจมตีได้หรือไม่ ”
” ข้าจะส่งนักสู้ที่มีพลังแตกต่างกันเข้าโจมตี ชุดเกราะของใครที่สามารถต้านทานการโจมตีได้นานกว่า แต้มที่ได้ก็จะสูงกว่า เป็นไปได้ว่าเจ้าจะต้องแสดงความรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีของเจ้า ในด้านนี้ออกมา จะไม่มีการถามหาเกรด ขอเพียงเจ้าวาดแล้วสามารถที่จะคงอยู่ได้นานกว่า ก็จะได้คะแนนที่มากกว่า !! “
หลี เทียนหลงอธิบายเรื่องความเข้มข้นของการใช้พลังวิญญาณได้อย่างเด่นชัด เฉียบขาด ขอเพียงจารอักขระอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ยกระดับชุดเกราะให้มีความแข็งแกร่งขึ้น ของผู้ใดที่แข็งแกร่งกว่าก็ย่อมที่จะดีกว่า
” ตึง!! รับภารกิจสุ่ม – ประสบความสำเร็จผ่านด่านทดสอบแรกของการแข่งขัน – จะได้รับค่าประสบการณ์ 500,000 แต้ม ค่าความชำนาญ 1,000 แต้ม ”
ยี่ เทียนหยุนนัยน์ตาดูเจิดจรัส ” น่าสนใจ หากสามารถทำภารกิจให้สมบูรณ์ได้ ก็จะเพิ่มค่าความชำนาญอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ขึ้นได้ เยี่ยม….. “
บรรดาผู้คนหลังจากที่ได้ฟังก็เข้าใจ หน้าตาดูสดใสกันทุกคน หัวข้อการแข่งขันนี้ก็ดูยุติธรรมดี
ความเข้มข้นของพลังวิญญาณที่วาดอักษรรูนลงบนชุดเกราะ มันจะช่วยขยายประสิทธิภาพของชุดเกราะ ต่อให้เป็นเหล็ก เมื่ออยู่ภายใต้อักษรรูนอันทรงพลัง ก็มิได้อ่อนแอกว่าอุปกรณ์วิญญาณ ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบกับอุปกรณ์วิญญาณธรรมดาๆแล้ว มันย่อมที่จะแข็งแกร่งกว่า นี่คือความแข็งแรงของอักษรรูน หากมิฉะนั้นแล้ว สถานะของปรมาจารย์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ก็คงจะมิได้สูงส่งเทียมนี้อย่างแน่นอน
” นึกว่าด่านทดสอบแรกของการแข่งขันในครั้งนี้จะคืออะไรซะอีก ที่แท้ก็คือ การเปรียบเทียบความเข้มข้นของพลังวิญญาณนี่เอง นี่ถือว่าเป็นรากฐานที่สุดของอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ ” จู เทียนหงพยักหน้า เขาถามยี่ เทียนหยุนว่า ” นี่ถ้าเป็นเจ้าแล้ว คงจะไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม ?? “
” จะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ” ยี่ เทียนหยุนยิ้มอย่างสงบ สีหน้าที่ดูยิ้มน้อยๆนั้น มันเต็มไปด้วยความมั่นใจอยู่หลายส่วน
จู เทียนหงพยักหน้า การจะสำเร็จไปถึงขั้นปรมาจารย์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์นั้น นี่คือระดับเบสิกพื้นฐาน ก่อนที่จะข้ามไปถึงฝั่งฝัน หากว่าพื้นฐานยังไม่เข้าใจ ก็ไม่ต้องพูดอะไรกันแล้ว นี่คือด่านทดสอบสถานเบาเพียงเท่านั้น ที่ให้วาดอักษรรูนป้องกัน นี่มิใช่เรื่องยากอันใด หากนี่ยังทำไม่ได้แล้ว ก็ย่อมไม่มีทาง ที่จะเลื่อนระดับขึ้นไปสู่ขั้นที่สูงกว่านี้ได้
ถึงแม้ว่าหลี เทียนหลงจะพูดว่า ไม่มีจำเป็นที่จะต้องดูเกรด แต่ในความเป็นจริงแล้ว นี่….. มิจำเป็นที่จะต้องดูเกรดจริงๆนะเรอะ ?? ที่เขาพูดว่าต่อให้วาดสัญลักษณ์เกรดสูงออกมา ก็จะไม่ได้คะแนนอะไร แต่….. อักษรรูนนั้น เกรดยิ่งสูง ความทนทานก็ไม่ต้องพูดถึง
กลุ่มกรรมการต่างก็นำอุปกรณ์ชิ้นส่วนป้องกันต่างๆนาๆออกมา อาทิเช่น โล่ เป็นต้น อุปกรณ์ป้องกันทั้งหลายเหล่านี้มาจาก 11 โรงเรียน ทั้งหมดต่างก็ถูกเลือกโดยผู้เข้าแข่งขัน โดยผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่แล้ว มักที่จะเลือกโล่กัน เหตุผลที่ผู้คนต่างก็เลือกโล่กันพอสมควร นั่นก็เพราะว่า มันเหมาะที่จะจารอักขระอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์
หลังจากที่ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดหยิบอุปกรณ์ต่างๆของชุดเกราะไปหมดแล้ว หลี เทียนหลงก็พยักหน้า พร้อมกับพูดจาอย่างสุภาพขึ้นมาว่า ” เมื่อทุกคนได้รับอุปกรณ์ป้องกันแล้ว เวลาที่กำหนดก็คือ 2 ชั่วโมง หากใครคิดสอดแนมลอกวิธีการของผู้อื่น จะต้องถูกคัดออก !! พวกเราหวังว่าทุกๆคนจะใช้เวลาอย่างคุ้มค่า ”
เมื่อเสียงพูดจบลง หลี เทียนหลงก็บอกใบ้ผู้ดูแลที่อยู่ใกล้ ให้เขาพลิกกลับนาฬิกาทรายเพื่อจับเวลา ทรายก็เริ่มที่จะตกลงอย่างรวดเร็ว เมื่อทรายไหลลงจนหมด ก็เป็นตัวแทนที่สื่อถึงเวลาที่หมดลง เมื่อหมดเวลาแล้ว หากใครยังทำไม่สำเร็จ ก็จะต้องถูกปรับแพ้คัดออก
ถึงแม้ว่าจะเป็นระบบนับคะแนน แต่ทว่าหากอักษรรูนยังไม่ได้จาร แล้วยังจะมีคุณสมบัติอะไร ในการแข่งขันอยู่อีกหรือ ?? ดังนั้นแล้ว ถึงแม้ว่าจะจารอักษรรูนขยะออกมา ก็ยังจะดีกว่าที่ไม่ได้จาร อย่างน้อยก็จะไม่ถูกคัดออก นั่นหมายถึงการเสียหน้าเป็นที่สุด
หลังจากที่นาพิกาทรายถูกคว่ำลง ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด ก็วาดอักขระอักษรรูนที่ตนเองมั่นใจที่สุดออกมา และก็เป็นการแข่งกับเวลา โดยเนื้อแท้ดั่งเดิมแล้ว การจารอักขระอักษรรูนนี้มิใช่งานง่าย 2 ชั่วโมงอาจจะดูเหมือนว่ามาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ที่สามารถทำได้นั้น มีค่อนข้างน้อยเป็นอย่างมาก
หากดูจากประวัติบันทึกแล้ว อักษรรูนที่เกรดต่ำ สามารถที่จะต้านทานได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น หากโดนโจมตีอีกครั้ง ก็จะล้มเหลวในครั้งที่ 2 หากเป็นอย่างนั้นก็หมายความว่า จะต้องถูกคัดออก นี่ก็เนื่องมาจากเวลาพื้นฐานที่ให้ ไม่เพียงพอ หากจะวาดอักขระให้ทนได้ถึง 3 ครั้ง
หากจะลงทุนลงแรงวาดอักขระอักษรรูนให้ได้ประสิทธิภาพแล้วละก็ จะต้องมีสมาธิที่ไม่วอกแวกแม้แต่นิดเดียว เวลาที่มีค่อนข้างจำกัด ทำให้ไม่มีเวลาเกียจคร้าน ไร้สาระไปกับเรื่องอื่น สายตาของยี่ เทียนหยุนดูวูบวาบเป็นประกายอย่างต่อเนื่อง ราวกับใส่ภาพที่อยู่ในสมองของเขา วางมันลงไปขณะกำลังวาด เขามิอาจพ่ายแพ้ ลง ณ ที่แห่งนี้ได้ อันดับ 1 ถึง 3 จะต้องตกเป็นของเขา !!
บรรดาผู้เข้าแข่งต่างก็ไม่มีเวลา แต่สำหรับแต่ละตระกูลที่อยู่ด้านนอกนั้น มีเวลาว่างมาก เลยทีเดียว พวกเขาต่างก็จับจ้องมองหาข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆของผู้เข้าแข่งขัน หยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็น
” ผู้นำตระกูลจู ไม่ทราบว่าผู้ช่วยที่ท่านเชื้อเชิญมาในครั้งนี้มีจำนวนเท่าไรอย่างงั้นรึ ?? ” ในเวลาที่ต่างคน ก็ต่างชิงดีชิงเด่นกันขณะนี้ ผู้นำแห่งตระกูลหวังที่อยู่ใกล้กันนั้น อดรนทนไม่ไหว จึงต้องถามออกไปว่า ” ข้าพอได้ยินมาบ้างว่า ท่านได้เชื้อเชิญปรมาจารย์อักษรรูนฝีมือดีมาถึง 2 คนใช่หรือไม่ ?? “
ผู้นำตระกูลจูกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูเคร่งขรึมว่า ” ใช่แล้ว การแข่งในครั้งนี้พวกเราเชิญผู้ช่วยมาทั้งหมด 2 คน ตัวท่านมีปัญหาอะไรอย่างนั้นรึ ?? ”
” จริงๆแล้วตัวข้าก็มิได้มีปัญหาอะไรหรอก ท่านเชื้อเชิญผู้ช่วยมา 2 คนก็ดีแล้ว….. น่าสงสารอะไรเช่นนี้ตัวข้าเชิญผู้ช่วยมาเพียงคนเดียวเท่านั้นเอง นี่ถ้าหากว่า ดูด้านจำนวนคนแล้วละก็ ตัวข้าก็คงจะดูแย่กว่านะซิ “
แต่สีหน้าของเขาก็มิได้มีความรู้สึกที่ด้อยกว่าเลย กลับยังคงรู้สึกหยิ่งผยอง นี่ตรงกันข้ามกับคำพูดของเขาอย่างรุนแรง
ฝ่ายผู้นำตระกูลที่นั่งอยู่ข้างกันนั้น ก็แทรกขึ้นมาว่า ” ผู้นำตระกูลหวัง ท่านพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูก ถึงแม้ว่าท่านจะเชิญมาแค่คนเดียว แต่ดูเหมือนว่า เขาจะเป็นคนของคฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์มิใช่หรือ ?? ส่วนคนทั้งสองที่ตระกูลจูอัญเชิญมานั้น ก็ไม่รู้ว่าเขาไปเชื้อเชิญมาจากที่ไหน เป็นบุคคลที่มาจากคฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงหรือเปล่า ?? ”
” ใช่แล้ว นี่ข้าก็นึกว่า ผู้นำตระกูลจูเชื้อเชิญคนมาจากคฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ซะอีก ยกตัวอย่างเช่น เด็กหนุ่มคนนั้นนะ ที่อยู่ในกลุ่มผู้เข้าแข่งขันบนเวที นั่นมิใช่บุคคลที่มาจากคฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์หรอกรึ ?? ” ผู้นำตระกูลหวังกล่าวอย่างดูถูก เหยียดหยัน แล้วเขาก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า ” หากมิใช่คฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์แล้วละก็ ยังกล้าที่จะขึ้นไปบนเวทีอีกเรอะ นี่คิดรึว่าขึ้นไปแล้ว จะไปช่วยอะไรได้ ?? “
” ท่านผู้นำตระกูลหวัง ไอ้เรื่องแบบนี้ นี่ท่านจะมาพูดเลื่อนลอยไม่มีหลักฐาน ไม่ได้นะ !! ถึงแม้ว่าข้าจะไม่เคยไปที่คฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ยังมิเคยเห็นศิษย์ของที่นั่นคนไหน ที่เด็กขนาดนี้มาก่อนเลย ดังนั้นแล้วข้าจึงสรุปได้เลยว่า เขามิใช่คนของคฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน ” ผู้นำของอีกตระกูลที่อยู่ใกล้กันนั้น ก็พูดจาเสียดสีร่วมวงด้วย
นี่เป็นแก๊งนักร้องประสานเสียง พวกเขาทำให้สีหน้าของผู้นำตระกูลจูดูจมลง พวกเขาต่างก็รวมหัวกันรุมถากถางเขาตั้งแต่ต้น การที่พวกเขารุมเสียดสีตัวเขานั้น นั่นก็เพราะว่า พวกเขาต่างก็ไปมาหาสู่กับผู้นำตระกูลหวังออกบ่อยครั้ง การแข่งเพิ่งจะเริ่มต้น ก็มีการยั่วยุกันเกิดขึ้นซะแล้ว
” ผู้นำตระกูลหวัง ตัวท่านคิดว่า ผู้ชนะเลิศในครั้งนี้ จะอยู่ในกระเป๋าของท่านอย่างงั้นเรอะ ?? ” ผู้นำตระกูลจู เขาหาใช่คนที่สุภาพ ใจดีไม่ เขาจึงได้พ่นลมหายใจออกทางจมูกอย่างรุนแรง
” ตัวข้าก็มิได้พูดเช่นนั้น แต่นี่ก็คือโอกาสเดียวเท่านั้น หรือในทางตรงกันข้าม ตัวข้าอาจจะพลาดโอกาสทองในครั้งนี้ก็เป็นได้ ” ผู้นำตระกูลหวังพูดยิ้มแย้ม นี่คือคำโกหกที่ดูสงบเสงี่ยมเจียมตัวซะที่ไหนกัน ตรงกันข้าม นี่ถือเป็นการดูถูกที่เข้ากระดูกเลยต่างหาก ” ไม่ทราบว่าท่านผู้นำตระกูลจู ท่านคิดว่าตัวท่านจะมีโอกาสคว้ารางวัลในการแข่งครั้งนี้ไปครองมากน้อยขนาดไหน อย่างนั้นรึ ?? ”
นี่คือโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ หากตัวแทน สามารถที่จะคว้ารางวัลชนะเลิศมาครองได้ หรือต่อให้ไม่ได้ที่ 1 แต่อย่างน้อย หากติดอันดับ 2 หรือ 3 ก็ไม่น่าที่จะมีปัญหาอะไร มีคฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์สนับสนุน ว่ากันโดยธรรมชาติแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็ย่อมจะแตกต่างกัน
” มากน้อยแค่ไหน ตัวข้าก็ไม่รู้ แต่หากจะให้เปรียบเทียบกับผู้นำตระกูลหวังของพวกเจ้าแล้วละก็ ก็ย่อมที่จะไม่แตกต่างกันอย่างแน่นอน !! ” ถึงผู้นำตระกูลจูจะดูขาดความมั่นใจในตัวเองลงไป แต่จะให้ยอมรับความพ่ายแพ้ที่นี่ นี่ก็ย่อมที่จะเป็นไปไม่ได้ ยังไงๆเขาก็จะต้องเถียงคอเป็นเอ็น
” แล้วข้าจะคอยดู !! ” ผู้นำตระกูลหวังพูดเยาะเย้ย เขารู้ว่ายังไงๆ ผู้นำตระกูลจูก็ไม่เต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ ตราบใดที่ผลการแข่งขันสุดท้ายยังมิได้ออกมา พวกเขาทั้ง 2 ต่างก็มิอาจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ของกันและกันได้
นี่ก็เป็นเหมือน เช่นครั้งก่อน ผู้นำตระกูลจูก็ยังคงเถียงคอเป็นเอ็น ท้ายที่สุดตัวเขาก็มิได้คว้ารางวัลอะไร มาครองได้เลย
สีหน้าของยี่ เทียนหยุนดูไม่แยแส เขามุ่งมั่นแข่งขันด้วยความตั้งอกตั้งใจ พวกเขาคิดยังไง ยี่เทียนหยุนเองจะไม่รู้ได้อย่างไร จะมีก็แต่เพียงประสบความสำเร็จเท่านั้น ภารกิจการแข่งขัน มุ่งสู่อันดับ 1 2 3 !!!