ตอนที่ 149: เจ้าฆ่าลูกชายของข้า ข้าก็จะฆ่าชายบำเรอของเจ้า
288 Viewsตระกูลเหลียนเป็นตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอำนาจที่สุดในมหาจักรวรรดิเซี่ย ในความเป็นจริงแล้ว ถือได้ว่าเป็นตระกูลที่ทรงอำนาจอันดับหนึ่งในจังหวัดจื่อเจียงเลยทีเดียว ทางเข้าบ้านพักนั้นมักจะอึกทึกครึกโครมไปด้วยกิจกรรมอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสองวันที่ผ่านมา มันทั้งเยือกเย็นและว่างเปล่า เมฆหมอกแห่งความสิ้นหวังได้ปกคลุมไปทั่วทั้งตระกูลเหลียน
บุตรชายคนโปรดของหัวหน้าตระกูลถูกสัตว์ป่ากินระหว่างทางกลับจากต้าเย่าหลังจากงานเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาขององค์จักรพรรดินี แม้แต่ศพของเขาก็ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วจังหวัดจื่อเจียง
บางคนก็บอกว่ามันเป็นผลกรรมของตระกูล บางคนก็หัวพวกเราะเยาะเย้ยในความอาภัพอับโชคของพวกเขา
ตระกูลเหลียนอาจมีอำนาจอยู่ในจังหวัดจื่อเจียงก็จริง แต่พวกเขาจะกล้าพอที่จะหาทางแก้แค้นต้าเย่าหรือไม่ ? แล้วพวกเขาจะหาทางแก้แค้นใครกันแน่ ?
ถ้าหากตระกูลเหลียนอยากจะหาทางแก้แค้น พวกเขาก็ทำได้แค่หาตัวฉีจี่เซียว บุคคลผู้ทรงพลังอันดับเจ็ดของโลก ยังไงซะด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้เหลียนเป่าเฉิงต้องการที่จะเห็นความงดงามของฉีจี่เซียวเป็นอย่างยิ่ง
โดยสรุปแล้ว ผู้คนมากมายต่างยินดีในความอาภัพอับโชคของพวกเขา
ตระกูลเหลียนเป็นตระกูลที่กดขี่ข่มเหงมากเกินไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผู้คนจำนวนมากที่ไม่เห็นพ้องต้องกันกับพวกเขา
เหลียนชีจือนั่งอยู่ในห้องโถงหลักพร้อมกับฟังรายงานของผู้ใต้บังคับบัญชา “พวกเราได้จัดการสมาชิกในตระกูลของคนพวกนั้นแล้วขอรับ”
“เจ้าคิดว่าข้าอำมหิตมั้ย ?” เหลียนชีจือถอนหายใจ
“เหตุใดฝ่าบาทถึงทรงรู้สึกเช่นนั้นล่ะขอรับ ? หลังจากที่นายน้อยถูกลอบปลงพระชนม์ คนพวกนั้นก็หนีไปทันทีขอรับ ถ้าไม่ใช่สำหรับคนสำนึกผิดที่กลับมาสารภาพผิดกับพวกเราล่ะก็ ข้าน้อยเกรงว่าทั้งตระกูลเหลียนก็จะยังคงมืดมนโดยสมบูรณ์ชั่วนิรันดร์ขอรับ” ผู้ใต้บังคับบัญชาของเหลียนชีจือตอบกลับไป
เหลียนชีจือเคาะนิ้วลงบนพื้นโต๊ะ ถึงแม้ว่าคนกลุ่มนั้นจะวิ่งหนีไป แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหลบหนีไปจากเงื้อมมือของเขาได้ เหลียนชีจือได้ส่งคนของตนไปสืบสวนเหตุการณ์มาแล้ว เขาต้องการจับกุมคนกลุ่มนั้นและจะไม่ปล่อยให้พวกเขาตายอย่างง่ายดาย เขาได้ฆ่าสมาชิกในตระกูลทุกคนที่อยู่ในจื่อเจียงแล้ว
อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังไม่พอใจอยู่ดี
เป็นไปได้อย่างไรที่ทั้งบุตรชายของเขาและเหลียนถงถูกสัตว์ป่ากิน ? บุตรชายของเขาอาจจะทำตัวไม่เหมาะสมต่อฉีจี่เซียว แต่ทำไมเหลียนถงถึงโดนไปด้วยล่ะ ? ฉีจี่เซียวนั้นระรานมากเกินไปแล้ว
เขาไม่สามารถทำการรุกรานฉีจี่เซียว แต่มีอยู่คนหนึ่งที่เขาสามารถหาทางแก้แค้นได้
เจ้าฆ่าลูกชายของข้า ข้าก็จะฆ่าชายบำเรอของเจ้า
หลายวันที่ผ่านมานี้ ข่าวที่ฉีจี่เซียวมีชายบำเรอที่รู้เพียงแค่การประจบสอพลอนั้นได้แพร่กระจายไปทั่วเมือง
ประโยคที่ว่า “หากไม่มีการพระราชสมภพขององค์ฝ่าบาท ก็จะมีแต่ความมืดมิดชั่วนิรันดร์” ก็ได้แพร่กระจายอย่างกว้างขวางไปพร้อมกับข่าวนี้ด้วยเช่นกัน
ว่ากันว่าชายบำเรอผู้นั้นใช้ประโยคนี้เพื่อชนะใจฉีจี่เซียว
ข่าวนี้ทำให้ช็อคโลก โดยเฉพาะผู้คนที่ได้รับข้อมูลอย่างดี
ผู้คนมากมายต่างอิจฉาชายบำเรอผู้นั้น
ไม่เพียงแต่ฉีจี่เซียวเป็นพระเจ้าแผ่นดินแห่งต้าเย่า และสุดยอดผู้ทรงพลังอันดับเจ็ดของโลกเท่านั้น แต่นางก็ยังมีความงดงามเป็นพิเศษด้วยเช่นกัน
ทุกคนต่างสงสัยกันว่าคุณความดีมากมายขนาดไหนกันที่เด็กคนนั้นได้สะสมในช่วงชีวิตที่ผ่านมานั้น ถึงทำให้ผู้หญิงอย่างนั้นตกหลุมรักเขาได้
สำนักแท้แห่งหนึ่งเคยเป็นสำนักที่ไม่โดดเด่นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปเมื่อสมาชิกคนหนึ่งได้เพิ่มชื่อเสียงในวันหนึ่งโดยฉับพลัน สำนักแห่งนี้ได้กลายเป็นที่รู้จักกันดีตั้งแต่นั้นมา
“รุ่นพี่ ยัยฉีจี่เซียวนั่นหยิ่งยโสโอหังจริง ๆ หล่อนกล้ายอมรับคำพูดเหล่านั้นได้ยังไง ? หล่อนได้มองข้ามวีรบุรุษทุกคนในโลกนี้” เด็กสาวอายุ 17 ปีที่แต่งตัวเหมือนแม่ชีพูดด้วยความขุ่นเคืองใจ
ตรงข้ามกับเธอ มีสาวสวยสมบูรณ์แบบซึ่งดูเหมือนจะไม่ได้โกรธแต่อย่างใด ในทำนองเดียวกัน เธอสวมชุดแม่ชี เธอสวมมงกุฎไว้บนหัว และมีรัดเกล้าห้อยอยู่บนหน้าผาก
ในขณะนี้ ผู้หญิงคนนี้ได้ยิ้มให้เด็กสาวคนนั้น
“รุ่นพี่ ท่านไม่เคยสนใจอะไรเลยนะ” เด็กสาวกังวลอย่างมาก
“นี่เป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ เอง ทำไมข้าถึงต้องไปยุ่งด้วยล่ะ ?” หญิงสาวยิ้มแล้วตอบกลับมา
“แต่ท่านเป็นถึงสุดยอดผู้ทรงพลังอันดับสามของโลกเชียวนะ ถ้าข้าเป็นท่านล่ะก็ ข้าจะไปสอนบทเรียนให้หล่อน แล้วถ้าหล่อนเป็นสุดยอดผู้ทรงพลังอันดับเจ็ดของโลกล่ะก็ หล่อนจะกล้าทำตัวหยิ่งยโสโอหังขนาดนั้นได้ยังไง ? เฮ้ย ข้าน่ะรู้สึกโกรธแทนท่านนะ ทำไมท่านถึงไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยล่ะ ?” เด็กสาวตบโต๊ะแล้วตอบด้วยความโกรธ
“หากเจ้าไม่ใจร้อนขนาดนี้ ระดับความแข็งแกร่งของเจ้าจะต้องสูงขึ้นอย่างแน่นอนเลยล่ะ วันนี้เจ้าทำการบ้านเสร็จแล้วหรือยัง ?” รอยยิ้มของหญิงสาวไม่มีความโกรธแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้าม มันกลับเต็มไปด้วยความเงียบสงบและความอ่อนน้อมถ่อมตน ทุกคนยอมรับว่าเธอเป็นสุดยอดผู้ทรงพลังอันดับสามของโลก หลี่หยวนจู๋
เด็กสาวส่งเสียงคร่ำครวญ หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ลดศีรษะลงแล้วพูดออกมา “ท่านกำลังกลายเป็นรูปปั้นเทพธิดาแล้วนะ”
ทันใดนั้นเอง ดวงตาของเด็กสาวก็เบิกบานด้วยความดีใจอีกครั้ง จากนั้นเธอก็พูดต่อ “ข้าได้ยินมาว่าฉีจี่เซียวถูกใจชายบำเรอจอมประจบสอพลอที่ไม่รู้เรื่องศิลปะการต่อสู้เลย ค่อนข้างน่าขำซะจริง ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าหล่อนจะถูกคำประจบสอพลอเอาชนะใจน่ะ ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ได้โง่อย่างหล่อนก็เถอะ”
หลี่หยวนจู๋ยิ้มให้กับเด็กสาว หลังจากนั้นไม่นานเธอก็พูดออกมา “ไม่เห็นจะเป็นซักหน่อย”
เด็กสาวสงสัยว่าหลี่หยวนจู๋พูดถึงความโง่เขลาของฉีจี่เซียวหรืออย่างอื่นกันแน่
เหยินปาเชียนย่อมไม่คาดคิดว่าก่อนว่าชื่อเสียงของตนจะเป็นอย่างไรนอกต้าเย่า ยังไงซะก็มีนักท่องเที่ยวและพ่อค้าจำนวนมากเดินทางเข้าออกต้าเย่าอยู่ทุกวัน
ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ ก็ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้
ในความเป็นจริงแล้ว บุคคลภายนอกไม่ใช่คนกลุ่มเดียวที่คิดแบบนี้ ทุกคนในต้าเย่าก็รู้สึกเหมือนกัน
ตราบใดที่จักรพรรดินียืนยันที่จะรักและสมรสกับเหยินปาเชียน คนอื่นก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับ
สองสามวันที่ผ่านมานี้ เหยินปาเชียนมุ่งมั่นไปกับการฝึกฝน เขารู้สึกว่าสภาพร่างกายของตัวเองดีขึ้นมาก ทุกวันนี้เขาจะไม่เหนื่อยง่าย และความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
แรกเริ่มเดิมที เขาสามารถออกแรงได้เพียง 600 นิวตันเท่านั้น ในตอนนี้ เขาสามารถออกแรงได้มากถึง 675 นิวตันเลยทีเดียว
ในเวลาสองสามวัน ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก เขารู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างยิ่งกับประสิทธิภาพของการอาบยาตัวนี้
ก่อนหน้านี้ ความคืบหน้าในการฝึกฝนของเขานั้นเชื่องช้ามาก อย่างไรก็ตาม สองสามวันที่ผ่านมาความคืบหน้าของเขาเร็วมาก ไม่น่าแปลกใจเลยที่ศิลปะการต่อสู้ชนิดนี้ต้องการส่วนเสริมสมุนไพรยา
ทุกวันนี้ สถิติการดำน้ำลึกในทะเลสาบของเขาได้เพิ่มขึ้นจาก 15 เมตรเป็น 17 เมตรแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถมองเห็นก้นทะเลสาบได้ แต่เขาก็มีความสุขมากกับความคืบหน้าในการฝึกฝนของตน
อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้ว่าสมุนไพรยาที่ตนใช้อยู่นั้นมีราคาแพงขนาดไหน ถ้าหากนำมาใช้กับชนเผ่าล่ะก็ ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้น 5 เท่าเลยทีเดียว
สองสามวันนี้ เขาสลับการฝึกฝนมาเป็นตอนกลางคืน หลังจากที่เขาฝึกฝนเสร็จ เขาก็สามารถนอนหลับพักผ่อนได้ทันที มันดีกว่าการฝึกฝนในช่วงกลางวัน และใช้เวลาครึ่งหนึ่งของการนอนหลับตอนกลางวันที่เหลือ
เมื่อลุกขึ้นจากเตียง ก่อนที่เขาจะล้างหน้า สภาพรอบตัวเขาก็เปลี่ยนไปในทันที สภาพรอบตัวเขาได้เปลี่ยนจากห้องในสวนสัตว์ผิงเล่อเป็นห้องนั่งเล่นในดาวโลก
ก่อนหน้านี้ เขายังคงรู้สึกมึนงงเล็กน้อย หลังจากการเคลื่อนย้าย เขาก็ตื่นขึ้นมาทันที
เมื่อนับจำนวนวันที่ผ่านไป เขาก็รับรู้ว่าเขาได้เคลื่อนย้ายกลับไปดาวโลกหลังจากผ่านไป 5 วันในคราวนี้
ก่อนหน้านี้ เขาจะเคลื่อนย้ายทุก ๆ 3 วัน ในตอนนี้ เขาจะเคลื่อนย้ายทุก ๆ 2 วันครึ่งถึง 5 วัน นอกจากนี้ เขาสามารถเลือกเวลาการเคลื่อนย้ายได้ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้เขาปลื้มปีติเป็นอย่างมาก
อย่างน้อยที่สุด ในตอนนี้เขาก็มีอิสระมากขึ้นแล้ว
ในตอนนี้ เขาสามารถกลับไปยังดาวโลกได้ทุกเมื่อที่ว่าง ด้วยวิธีนี้ เขาจะสามารถใช้เวลาของตัวเองให้เหมาะสมที่สุด
ยังไงซะในอดีต เหตุการณ์ที่เขาหายตัวไปโดยกะทันหันจะเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย
หลังจากที่รู้สึกดีใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของตัวเองที่ดีขึ้น เขาก็สังเกตเห็นกระเป๋าข้างตัว มันมีสิ่งที่เขาซื้อให้จักรพรรดินี ก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยจัดการนำมันกลับมาเลย
เขาสามารถนำมันกลับมาได้ในครั้งนี้ เขาตั้งใจจะนำหม้อไฟและส่วนผสมกลับมาด้วย จักรพรรดินีคิดถึงมันอยู่ตลอดเวลา
เนื้อวัวและเนื้อแกะในโลกนั้นอร่อยมาก เหมาะสำหรับหม้อไฟ
เหยินปาเชียนรู้สึกค่อนข้างดีเมื่อคิดว่าจะกินหม้อไฟกับจักรพรรดินีที่พระราชวังหย่างซิน
มันน่าเสียดายที่เขาต้องเตรียมออกเดินทางทันทีหลังจากที่เขากลับไปยังโลกนั้น
ขณะที่เดินไปรอบบ้านของตัวเอง เหยินปาเชียนก็คิดถึงวันที่ตนกับจักรพรรดินีอยู่ที่นี่ด้วยกัน ในวันนั้น เขาทำอาหารเช้า ในขณะที่จักรพรรดินีนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา
ทันใดนั้นเอง เหยินปาเชียนก็รู้สึกอยากจะซื้อบ้านหลังนี้ เขาต้องการที่จะรักษาภาพนั้นไว้ในบ้านหลังนี้ตลอดไป
เขาจะต้องขายจี้หยกกับอัญมณีที่เขานำกลับมาเสียก่อน