ตอนที่ 125: สุรา
263 Viewsจักรพรรดินีเหลือบมองภาพสะท้อนของเหยินปาเชียนในกระจก หลังจากนั้นสักพักนางก็หันกลับมามองภาพสะท้อนของตัวเอง
เมื่อชิงยวนทำผมของจักรพรรดินีเสร็จแล้ว พวกเธอก็หันหลังกลับและได้ยินเสียงดนตรีอันไพเราะและงดงาม เสียงดนตรีนั้นใสและไพเราะจริง ๆ
ทำนองเพลงนั้นงดงามและอบอุ่นใจจริง ๆ
จักรพรรดินีไม่เคยได้ยินทำนองเพลงที่มีท่วงทำนองเช่นนี้มาก่อนเลย มันโดนใจนางได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม มันใช้เวลาเพียง 30 วินาที ซึ่งถือว่าค่อนข้างสั้น
“ฝ่าบาท นี่คือหนึ่งในของขวัญที่ข้าน้อยเลือกสำหรับฝ่าบาทขอรับ” เหยินปาเชียนพูดออกมาพร้อมกับยกกล่องดนตรีขึ้นมา
“เสียงดนตรีเมื่อกี้นี้มาจากเจ้าสิ่งนี้เหรอ ?” จักรพรรดินีถามด้วยความอยากรู้ กล่องดนตรีประกอบไปด้วยแท่นที่มีลูกแก้วอยู่ด้านบน ภายในลูกแก้วมีม้าไม้ 3 ตัวที่จะหมุนเมื่อเปิดเพลง
มันงดงามเป็นอย่างมาก
อย่างน้อยที่สุดลูกแก้วและม้าไม้เหล่านั้นก็ดูงดงามเป็นอย่างมาก
“ใช่แล้วขอรับฝ่าบาท เพียงแค่ไขลานกุญแจที่อยู่ด้านข้าง มันก็จะเล่นเสียงดนตรีออกมาขอรับ” เหยินปาเชียนอธิบาย
จักรพรรดินีหยิบกล่องดนตรีขึ้นมาไขลานกุญแจที่อยู่ด้านข้าง หลังจากนั้นกล่องดนตรีก็เล่นเสียงดนตรีอีกครั้ง และม้าทั้ง 3 ตัวก็หมุนไปพร้อมกับเสียงดนตรี
“ขอบใจนะ” จักรพรรดินีพูดออกมาขณะที่ขยับกล่องดนตรีเล่นไปมา
เหยินปาเชียนพูดต่อ “นี่คือลูกอมที่ข้าน้อยเอากลับมาในครั้งนี้ขอรับ และข้าน้อยก็รู้ด้วยว่าฝ่าบาททรงโปรดปรานการเสวยน้ำจัณฑ์ชนิดแรง ดังนั้นข้าน้อยจึงนำไวน์ชั้นดี 24 ขวดมาถวายฝ่าบาทขอรับ”
“ไหนเอามาดูซิ”
เหยินปาเชียนส่งลูกอมให้ชิงยวน จากนั้นเขาก็เปิดลังทั้งสองแล้วหยิบไวน์ออกมา 1 ขวด หลังจากนั้นเขาก็แสดงวิธีการคลายเกลียวให้กับจักรพรรดินีแล้วเอาให้นางดู
ขวดแก้วที่ดูธรรมดาขวดนี้ถือว่าเป็นอะไรที่ย่ำแย่ในประเทศจีน แต่ทว่า ผู้คนในโลกนี้กลับคิดอย่างอื่น
ยังไงซะ ชาวจีนก็คุ้นเคยกับขวดแก้วแบบนี้ ในทางกลับกัน ผู้คนในโลกนี้ไม่ค่อยจะได้เห็นขวดแก้วสักเท่าไหร่
จักรพรรดินีใช้นิ้วสองนิ้วจับคอขวด นิ้วของนางทั้งบางและนุ่มเหมือนหญ้า และผิวของนางนั้นขาวอมชมพู ไม่มีใครสามารถบอกได้เลยว่านางสามารถทำลายหุ่นยนต์กันดั้มได้ด้วยฝ่ามือคู่นั้น
ขวดใสเผยให้เห็นของเหลวใสภายใน ของเหลวนั้นไม่มีสิ่งเจือปนเลยแม้แต่น้อย คุณสมบัตินี้เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้จักรพรรดินีรู้สึกพึงพอใจแล้ว
“เจ้าอยู่ทานอาหารกับข้า หงหลวน ฝากใครก็ได้ไปบอกห้องครัวหลวงด้วย” จักรพรรดินีบอกเหยินปาเชียนแล้วส่งขวดไปให้ชิงยวน
“เป็นพระมหากรุณาธิเจ้ายิ่งขอรับฝ่าบาท” เหยินปาเชียนรีบพูดออกมา นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เรื่องแบบนี้ได้เกิดขึ้น เมื่อก่อนเขาจะยืนมองดูจักรพรรดินีรับประทานอาหารอยู่ตรงนั้น
การปฏิบัติที่เขาได้รับนั้นถูกยกระดับขึ้นแล้ว
โดยปกติแล้ว จักรพรรดินีจะรับประทานอาหารในห้องโถงพระราชวังแห่งนี้ซึ่งมีโต๊ะเพียงโต๊ะเดียว อย่างไรก็ตาม วิถีการดำเนินชีวิตของจักรพรรดินีนั้นมีความตระหนี่เสมอ อาหารของนางมักจะประกอบด้วยข้าว 1 ถ้วย และกับข้าว 4 อย่าง
ในครั้งนี้พวกเขาอยู่ในพระราชวังหลังอื่น ภายในห้องโถงพระราชวังแห่งนี้มีโต๊ะยาว 3.5 เมตร
จักรพรรดินีนั่งที่นั่งอันทรงเกียรติ ในขณะที่เหยินปาเชียนยืนอยู่โดยที่มืออยู่ข้างลำตัว
“นั่งลงสิ”
“เป็นพระกรุณาธิคุณขอรับฝ่าบาท” เหยินปาเชียนนั่งไม่ไกลจากจักรพรรดินี
“เล่าเรื่องประเทศจีนให้ข้าฟังอีกซิ ข้าอยากจะรู้ว่าโลกที่อยู่นอกเหนือจากโลกนี้มันเป็นยังไงน่ะ”
เมื่อคิดถึงเรื่องนั้นแล้ว เหยินปาเชียนก็ถามออกมา “ฝ่าบาททรงอยากรู้เรื่องประเทศจีนในด้านใดขอรับ ?”
“สุดยอดในประเทศจีนเป็นยังไงบ้างล่ะ ?”
เหยินปาเชียนไตร่ตรองคำถามนี้อยู่พักหนึ่ง คำถามนี้ไม่ใช่ว่าจะตอบได้ง่าย ๆ ความแข็งแกร่งของบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศจีนเทียบได้แค่ชนเผ่าธรรมดาเท่านั้น
“ฝ่าบาท ทุกโลกล้วนมีกฎและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันขอรับ ในประเทศจีน คนเราไม่ได้ตัดสินความแข็งแกร่งด้วยร่างกายหรือศิลปะการต่อสู้ แต่เป็นความรู้และภูมิปัญญาขอรับ พวกเราได้คิดค้นเครื่องจักรและอุปกรณ์ขั้นสูงหลายชนิด แทนที่จะมีรถม้าที่ใช้ม้าลากจูง พวกเรามีรถยนต์ที่เคลื่อนที่รวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบ พวกเรามีเครื่องบินที่สามารถบรรทุกคนและบินในอากาศได้ พวกเรามีอินเทอร์เน็ตที่ช่วยให้ผู้คนได้รับข้อมูลจากทั่วทุกมุมโลก ในโลกของพวกเรานั้น ความองอาจของบุคคลนั้นถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักร อาวุธปืนสามารถคร่าชีวิตผู้คนจากระยะไกลได้หลายคนภายในเสี้ยววินาที การยิงปืนใหญ่สามารถโจมตีสถานที่ที่มองไม่เห็นด้วยตามนุษย์จากระยะไกลได้ แถมพวกเรายังมีอาวุธนิวเคลียร์ที่สามารถทำลายเมืองที่อยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์ได้ด้วยลูกเดียวอีกด้วยขอรับ”
“ทำลายเมืองที่อยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์ได้ด้วยลูกเดียวงั้นรึ ? มีอาวุธแบบนั้นในโลกนั้นจริงรึ ?” จักรพรรดินีร้องอุทาน
เมื่อเหยินปาเชียนเงยหน้าขึ้นแล้วมองเห็นสีหน้าของจักรพรรดินีที่ดูตกใจ เขาก็หัวเราะเบา ๆ
มนุษย์โลกอาจไม่สามารถเอาชนะนางในแง่ความแข็งแกร่งทางกายภาพหรือศิลปะการต่อสู้ได้ แต่เทคโนโลยีขั้นสูงของพวกเราสามารถเอาชนะนางได้อย่างแน่นอนเลยล่ะ
“มีจริงขอรับ ภายในรัศมีการระเบิด 6 กิโลเมตร มันจะเป็นเหมือนนรกและไม่มีสิ่งมีชีวิตเหลือรอด เนื่องด้วยพลังทำลายล้างของมัน อาวุธนิวเคลียร์จึงถูกสั่งห้ามขอรับ”
“อาวุธที่ทรงพลังขนาดนั้นก็ควรจะถูกห้ามจริง ๆ นั่นแหละ” จักรพรรดินีถอนหายใจแล้วตอบกลับ
“ขอรับ เช่นเดียวกับที่ข้าน้อยได้พูดไปก่อนหน้านี้ ความรู้และภูมิปัญญาจะเป็นตัวกำหนดสถานะทางสังคมของชาวจีนขอรับ โดยยึดความสนใจและความสามารถของแต่ละบุคคลเป็นหลัก พวกเค้าจะถูกจัดสรรให้เข้าทำงานในภาคสังคมนั้น ๆ การทำงานเพื่อสร้างสังคมที่มีสุขภาพดีและแข็งแกร่งจึงถูกแบ่งในหมู่ประชาชน ด้วยการรวบรวมความรู้ทั้งหมดของประชาชน จะทำให้ชีวิตของทุกคนง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น เป้าหมายของการพัฒนาอย่างต่อเนื่องคือการสำรวจ ทำความเข้าใจ และไขความลับของโลกขอรับ”
“การทำสิ่งเหล่านี้ทำให้สังคมของพวกเรามีเสถียรภาพมากขึ้นและประชาชนก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ถึงแม้ว่ายังมีความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจ ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังคงมีความสุขกับคุณภาพชีวิตที่ดีขอรับ”
“ความต้องการขั้นพื้นฐานอย่างเช่นเสื้อผ้า อาหาร ที่อยู่อาศัย และการขนส่งไม่เป็นปัญหาสำหรับคนส่วนใหญ่อีกต่อไป ในปัจจุบัน ผู้คนในประเทศจีนส่วนใหญ่คิดว่าจะปรับปรุงคุณภาพชีวิตกันอย่างไรขอรับ”
“ธรรมชาติของมนุษย์นั้นมักไม่รู้จักพออยู่เสมอ” จักรพรรดินีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงต่ำ
“ด้วยธรรมชาติของมนุษย์ที่ไม่รู้จักพอ ผู้คนจึงอยากได้ความรู้และสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น ด้วยการนี้ ทั่วทั้งโลกก็จะดีขึ้น มิฉะนั้นแล้ว โลกก็จะกลายเป็นหนองน้ำที่หยุดนิ่งในที่สุดขอรับ”
เหยินปาเชียนเล่าเกี่ยวกับประเทศจีนให้จักรพรรดินีฟังเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เขาพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อเล่าเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของประเทศจีน ยังไงซะ เขาก็ไม่ต้องการเผยเรื่องไม่ดีของประเทศจีนต่อหน้าจักรพรรดินี
ในดาวโลก ยิ่งประเทศของคุณเป็นประเทศที่ร่ำรวยและแข็งแกร่ง คุณก็จะยิ่งได้รับการนับถือเมื่อไปต่างประเทศ
ถึงแม้ว่าความเคารพที่คน ๆ นั้นได้รับจะยังคงขึ้นอยู่กับตัวเองก็ตาม ความแข็งแกร่งของประเทศตนก็ยังคงมีบทบาทสำคัญ
บุคคลจากประเทศที่มีอำนาจกับบุคคลจากประเทศที่อ่อนแอนั้น ได้รับการปฏิบัติในต่างประเทศแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ถึงแม้ว่าปัจจัยนี้จะไม่สำคัญในต้าเย่ามากนัก แต่เหยินปาเชียนก็ยังคงเต็มใจที่จะโอ้อวดความแข็งแกร่งของประเทศจีน
ในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน อาหารก็มาเสิร์ฟ
เหยินปาเชียนหยุดพูด จากนั้นเขาก็ยืนขึ้น เขาหยิบขวดแล้วเติมใส่แก้วของจักรพรรดินี
เมื่อสูดกลิ่นแล้ว จักรพรรดินีก็กระดกเหล้าลงในอึกเดียว จากนั้นนางก็พยักหน้าแล้วพูดออกมา “ใช้ได้หนิ”
จากการแสดงออกทางสีหน้าของนาง เหยินปาเชียนบอกได้เลยว่านางชอบมันมาก
“หากพวกเรามีแหล่งอาหารมากเพียงพอ พวกเราก็สามารถผลิตสุราแบบนี้ได้นะขอรับ” เหยินปาเชียนพูดออกมา
“ข้าจะมอบเรื่องนี้ให้กับเจ้าก็แล้วกัน ก่อนอื่น เจ้าจะต้องตามข้ามาที่พระราชวังชิงซิน เพื่อเลือกคัมภีร์ศิลปะการต่อสู้ให้ตัวเจ้าเอง หลังจากที่เจ้าได้เรียนรู้พื้นฐานแล้ว ข้าก็จะส่งคนมาพาเจ้าไปยังเหมือง จงไปที่นั่นเพื่อดูว่าเหมืองสามารถผลิตแร่จำนวนมากได้หรือไม่ จัดการเรื่องการหลอมโลหะ แล้วจากนั้นค่อยจัดการเรื่องการผลิตสุรา เจ้าไม่จำเป็นต้องผลิตสุราให้มากนัก เพียงผลิตให้เพียงพอสำหรับพระราชวังหลวงก็พอแล้ว” จักรพรรดินีพูดออกมา
เหยินปาเชียนพยักหน้า มันไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ยากแต่อย่างใด
ต้าเย่าส่วนใหญ่ขาดแคลนเนื้อสัตว์ ผัก ข้าว และบะหมี่ ดังนั้นจักรพรรดินีจึงไม่กล้าใช้ทรัพยากรในการผลิตเหล้ามากนัก
“อันที่จริง พวกเราสามารถต้มสุราและใช้แลกกับทรัพยากรอาหารจากแคว้นเฉิน แคว้นหยูน และมหาจักรวรรดิเซี่ยได้ขอรับ อีกทั้งพวกเรายังสามารถแลกกับเกลือและเครื่องเหล็กได้ด้วยขอรับ สุราชนิดแรงนี้จะเป็นที่ต้องการของตลาดในแคว้นเหล่านั้นอย่างแน่นอนขอรับ ทั้งนี้ข้าน้อยสงสัยว่าคุณภาพของสุราที่ใช้ในงานเลี้ยงวันเฉลิมพระชนมพรรษาของฝ่าบาท เป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับสุราของแคว้นเหล่านั้นขอรับ ?” เหยินปาเชียนถามออกมา
เหล้าที่ใช้ในงานเลี้ยงวันเฉลิมพระชนมพรรษาขององค์จักรพรรดินีนั้นดีกว่าของผู้ดูแลฉี อย่างไรก็ตาม มันยังคงเทียบไม่ได้กับเหล้าของดาวโลกอยู่ดี ทั้งสีและรสชาติของเหล้ายังบกพร่องอยู่ เหยินปาเชียนต้องการที่จะรู้ว่าแคว้นอื่นจะพิจารณาคุณภาพของมันอย่างไร
“ก็ถือว่าคุณภาพสูงล่ะนะ”
“ขอรับ ถ้าหากพวกเราสามารถผลิตสุราที่มีคุณภาพสูงกว่าได้ พวกเราก็สามารถขายให้กับแคว้นอื่นในราคาสูง และนำกำไรมาซื้อทรัพยากรที่จำเป็น ทรัพยากรที่ผู้อื่นไม่มีจะมีความต้องการสูงมาก สุรา ด้วยสิ่งนี้ มักจะมีตลาดที่ใหญ่ขอรับ” เหยินปาเชียนหัวเราะเบา ๆ
จักรพรรดินีวางตะเกียบไว้ด้านข้าง เมื่อไตร่ตรองคำพูดของเหยินปาเชียนอยู่พักหนึ่ง นางก็พูดออกมา “เป็นความคิดที่ดี เจ้าได้รับอนุญาตให้ดำเนินการได้ จัดการเรื่องอื่นก่อนทำเรื่องนี้ล่ะ หากเจ้าทำได้ดีล่ะก็ ข้าจะให้รางวัลแก่เจ้า”