ตอนที่ 118: จอมประจบสอพลอดีเด่น
325 Views“ท่านหนิงแห่งมหาจักรวรรดิเซี่ย ไหนอธิบายเกี่ยวกับภาพวาดที่พรรณนาถึงสาวสวยร้อยนางนั่นมาซิ” จักรพรรดินีมองอย่างรอบคอบหนึ่งครั้ง นางไม่เห็นสิ่งแปลกประหลาด หญิงสาวในภาพวาดนั้นสวยงามอย่างน่าทึ่งทีเดียว
เป็นไปได้มั้ยว่าหนิงไฉ่เฉินเอาภาพสาวสวยเหล่านี้มาเปรียบเทียบกับเราน่ะ ?
ตลกสิ้นดี !
หนิงไฉ่เฉินลุกขึ้นแล้วกำมือก้มคำนับ “องค์จักรพรรดินีแห่งต้าเย่า โปรดอภัยในการกระทำอันคึกคะนองของข้าน้อยด้วยขอรับ ภาพวาดนี้ถูกวาดขึ้นโดยบุคคลที่มีพรสวรรค์ เป้าหมายในชีวิตของเค้าคือการวาดภาพผู้หญิงที่สวยที่สุด 100 คนแรกของโลกนี้ พอวาดภาพถึง 99 คนแล้ว เค้าก็ไม่สามารถวาดสาวสวยคนสุดท้ายได้อีก”
“เพราะอะไรล่ะ ?” ผู้คนที่ยืนดูถามออกมา
“นั่นเป็นเพราะว่าผู้หญิงทั้ง 99 คนจะได้ 4 คะแนนสำหรับความสวย ความมีชีวิตชีวา และความสง่างาม แต่ทว่าในโลกนี้มีผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้ 5 คะแนนเต็ม ดังนั้นเค้าจึงไม่สามารถวาดภาพนางไม่ว่ายังไงก็ตาม และเมื่อได้ยินว่าข้าน้อยกำลังมุ่งหน้ามายังต้าเย่า เค้าจึงมอบวาดภาพนี้ให้ข้ามา เพราะข้าสามารถนำเสนอแด่องค์จักรพรรดินีของต้าเย่าตรงหน้าได้ ข้าน้อยได้ทำตามความต้องการของเค้าแล้ว ฝ่าบาทสามารถเผาภาพวาดนี้ทิ้ง หรือทำอะไรกับมันก็ได้ตามที่ฝ่าบาทประสงค์ขอรับ จะมีสาวสวยร้อยนางในโลกนี้ได้อย่างไรในเมื่อสาวสวยแค่คนเดียวก็เพียงพอแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น คนที่เหลือจะเปรียบเทียบกับฝ่าบาทได้อย่างไร” หนิงไฉ่เฉินพูดพร้อมกับกำมือก้มคำนับ
คำพูดของเขาทำให้ทุกคนตกตะลึงจนพูดไม่ออก แม้แต่เหยินปาเชียนก็ยังต้องสบถว่า “เห้ย” อยู่ในใจเลย
นี่ต้องประจบสอพลอกันขนาดนี้เลยหรอ ?
เอ็งจะอยู่รอดได้ยังไงตอนกลับไปยังมหาจักรวรรดิเซี่ยน่ะ ?
หนิงไฉ่เฉินก็เป็นคนที่มีพรสวรรค์เช่นกัน เขาเป็นคู่แข่งตัวฉกาจ ถ้าหากเหยินปาเชียนรู้อยู่แล้วล่ะก็ ตนก็คงจะทิ้งเขาไว้ข้างหลังให้หมาป่ากินไปแล้ว
ทุกคนต่างหักห้ามใจที่จะโต้เถียง กลอนบทกวีที่เหล่าหนุ่มหล่อเตรียมไว้สรรเสริญองค์จักรพรรดินีนั้นไม่จำเป็นอีกต่อไป คำสรรเสริญของหนิงไฉ่เฉินอาจทำให้ทุกคนกล่าวได้ว่าเทียบไม่ติดเลยทีเดียว
มีแค่เจ้าชายที่เจ็ดที่ขมวดคิ้ว ซิ่วอู่ สาวสวยคนที่ 100 ซึ่งอยู่เคียงข้างเขาเสมอนั้น ไม่ใช่ว่าเทียบได้กับฉีจี่เซียวทั้งคนหรอกเหรอ ? ในบรรดาผู้หญิงทุกคนในโลก มีเพียงฉีจี่เซียวเท่านั้นที่ได้ 5 คะแนนเต็มสำหรับความสวย ความมีชีวิตชีวา และความสง่างามสินะ ? มันทำให้เขารู้สึกยังไงกันนะ ? ราวกับว่าเขาปฏิบัติต่อสิ่งของธรรมดาดั่งขุมทรัพย์ยังไงยังงั้น
อารมณ์ของเขาบูดบึ้งในทันที
ก่อนหน้านี้จักรพรรดินีไม่พอใจเล็กน้อย แต่ตอนนี้นางผ่อนคลายกว่าเดิม และริมฝีปากของนางก็ยิ้มออกมา
ในขณะนี้ ทุกคนสามารถเห็นได้ว่าอารมณ์ของจักรพรรดินีนั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ
“ท่านหนิงแห่งมหาจักรวรรดิเซี่ย ข้าจะยอมรับภาพวาดนี้ไว้ก็แล้วกัน” จักรพรรดินีพยักหน้า
หนิงไฉ่เฉินกำมือคำนับแล้วกลับไปยังที่นั่งตามเดิม
“ถ้าพวกเรากำลังพูดถึงผู้หญิงทุกคนในโลกกันล่ะก็ ฝ่าบาทจะได้ 5 คะแนนเต็มสำหรับความสวย ความมีชีวิตชีวา และความสง่างามเลยล่ะ” ชายร่างกำยำคนหนึ่งลูบหัวโล้น ๆ แล้วหัวเราะอย่างคึกคะนอง
“จะได้แค่ 5 คะแนนได้ยังไงเล่า ที่สำคัญนางต้องได้ซัก 6-7 คะแนนด้วยซ้ำ ข้ารู้สึกว่าขอบเขตของนักวาดภาพที่มีพรสวรรค์คนนั้นน่ะตื้นมากเลยนะ” ชายร่างกำยำอีกคนพูดต่อทันที
เหล่าชายร่างกำยำที่มีไขมันรอบเอวเริ่มคุยโวเกี่ยวกับองค์จักรพรรดินี
แต่ทว่าการสรรเสริญนั้นจะมีผลเฉพาะคนแรกที่พูดออกมาเท่านั้น
จักรพรรดินีพูดออกมา “เอาของขวัญของเหยินปาเชียนมานี่ซิ ข้าเชื่อว่าทุกคนที่นี่อยากเห็นกัน เพราะข้าเองก็อยากเห็นมาตลอดเหมือนกันล่ะนะ”
เมื่อจักรพรรดินีเริ่มพูด ทุกคนก็พยักหน้าทีละคน พวกเขาอยากเห็นจริง ๆ ว่า “สุดยอดกระจกที่เหมาะสำหรับองค์จักรพรรดินีโดยเฉพาะ” คืออะไรกันแน่
ชื่อมันแปลกและฟังดูหลุดโลกไปเลย
จากนั้นก็มีคน 2 คนถือกล่องไปตรงกลางห้องโถงพระราชวัง
ดูจากหีบห่อภายนอกแล้ว มันไม่ได้ถือว่าดูดีเลย หีบห่อภายนอกดูชุ่ยมาก มันดูเหมือนกล่องธรรมดาที่ทำจากไม้ ดูจากรอยแยกภายในกล่อง วัตถุสามารถมองเห็นได้ แต่ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร
“เหยินปาเชียน เจ้าสามารถนำของขวัญของเจ้าออกมาให้ทุกคนดูได้เลย” จักรพรรดินีพูดออกมา
เหยินปาเชียนลุกขึ้นแล้วเดินไปตรงกลางห้องโถงพระราชวัง เขาครุ่นคิดกับตัวเอง โชคดีนะที่เขาเตรียมตัวมาดี ถึงแม้ว่าทักษะการประจบสอพลอของหนิงไฉ่เฉินนั้นจะยอดเยี่ยมก็ตาม ในตอนนี้เขาก็ไม่ได้ขาดทักษะนี้ และน่าจะเป็นจอมประจบสอพลอดีเด่นที่สุดในนี้แล้ว
“ข้าขอคนมาช่วยเปิดกล่องนี่ได้มั้ย ขอร้องอย่าทำให้สิ่งที่อยู่ข้างในเสียหายล่ะ” เหยินปาเชียนหันหน้าไปทางซ้ายพร้อมกับกำมือคำนับ
ทุกคนต่างก็เหลียวมองกัน ถ้าหากเป็นอะไรที่ยุ่งยากกว่า ทุกคนก็จะยิ่งสนใจมากขึ้น ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มันก็เป็นแค่กล่องไม้ ทุกคนจึงขี้เกียจยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ
“ข้าขอช่วย” ในที่สุดชายร่างกำยำที่อยู่ไกลสุดก็ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินไปที่ด้านหน้าห้องโถงพระราชวัง เขาถวายความเคารพต่อองค์จักรพรรดินีก่อนที่จะใช้นิ้วกดด้านบนกล่องไม้อย่างนุ่มนวลแล้วทุบมันทันที
เขาบดขยี้จากบนถึงล่างกล่อง จากนั้นเขาจึงใช้มือทั้งสองข้างดึงออกจากกัน กล่องไม้ทั้งใบถูกแยกแตกเป็นชิ้น ๆ
เหยินปาเชียนรับกระจกครึ่งใบที่ถูกห่อในกระดาษคราฟท์ จากนั้นเขาก็พยักหน้าแสดงความความขอบคุณต่อชายร่างกำยำ “ขอบคุณมากครับ”
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ฉีกกระดาษคราฟท์ แล้วกระจกสีเงินเป็นประกายวาววับก็เผยออกมา โลหะของกรอบกระจกผลิตในยุโรป มันมีความซับซ้อน เพียงแค่การออกแบบตกแต่งอย่างเดียวก็ทำให้ช่างตีเหล็กล้วนต้องเจอกับปัญหาทั้งสิ้น
และสิ่งที่ดึงดูดผู้คนก็คือกระจกนั่นเอง มันแตกต่างจากกระจกทองแดง ซึ่งให้ภาพพร่ามัวและมืดหมองแบบที่ผู้คนใช้กันอยู่ในปัจจุบัน กระจกนี้สะท้อนให้เห็นโลกภายนอกที่ส่องอยู่บนนั้น แถมยังไม่มีความเบลอสักนิดอีกด้วย ภาพที่สะท้อนจากกระจกนั้นมีความแตกต่างอย่างมากทีเดียว
ภาพบนกระจกนั้นเหมือนกับว่ามีห้องโถงพระราชวังอีกหลัง และสามารถเห็นรายละเอียดแบบเรียลไทม์เลยทีเดียว
เมื่อได้เห็นกระจกใบนี้ ผู้หญิงทุกคนก็ตื่นเต้น
แถมยังมีคำที่เขียนบนกระจกทั้งสองด้านอีกด้วย
“หากไม่มีการพระราชสมภพขององค์ฝ่าบาท ก็จะมีแต่ความมืดมิดชั่วนิรันดร์ !” มีใครบางคนอ่านออกเสียงประโยคนี้คำต่อคำ
เหยินปาเชียนเผชิญหน้ากับองค์จักรพรรดินีแล้วกำมือก้มคำนับ “ในโลกนี้มีกระจกแบบนี้เพียงใบเดียวเท่านั้นขอรับ ข้าน้อยเชื่อว่ามีเพียงฝ่าบาทเท่านั้นที่มีคุณสมบัติที่จะมีไว้ในครอบครอง เหมือนดั่งคำในกระจก ‘หากไม่มีการพระราชสมภพขององค์ฝ่าบาท ก็จะมีแต่ความมืดมิดชั่วนิรันดร์'”
ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับว่าทักษะการประจบสอพลอของเหยินปาเชียนนั้นยอดเยี่ยมทีเดียว เมื่อครู่นี้ “สาวสวยร้อยนาง” ของหนิงไฉ่เฉินทำให้ทุกคนประหลาดใจ ในตอนนี้ ทุกคนต่างก็โดนกระจกของเหยินปาเชียนดึงดูดความสนใจไปแล้ว
กระจกเป็นสมบัติที่หาได้ยาก แต่คำที่อยู่บนนั้นมีความหมายมากที่สุด
หากไม่มีการพระราชสมภพขององค์ฝ่าบาท ก็จะมีแต่ความมืดมิดชั่วนิรันดร์
ก่อนการพระราชสมภพขององค์ฝ่าบาทจากสรวงสวรรค์ โลกได้ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดที่ไร้ขอบเขต
ถ้อยคำนี้น่าประทับใจทีเดียว ทุกคนสามารถรู้สึกได้ถึงความประทับใจจากคำเพียงไม่กี่คำนี้
ก่อนหน้านี้ หนิงไฉ่เฉินได้กล่าวว่าในบรรดาผู้หญิงทุกคนในโลก มีเพียงจักรพรรดินีเท่านั้นที่ได้ 5 คะแนนเต็มสำหรับความสวย ความมีชีวิตชีวา และความสง่างาม สาวสวยอีก 99 คนได้ 4 คะแนน และผู้หญิงส่วนที่เหลือได้เพียงคะแนนเดียวเท่านั้น เมื่อคะแนนของผู้หญิงทุกคนในโลกเพิ่มขึ้น พวกเธออาจถูกมองว่าเป็นคู่แข่งของจักรพรรดินีก็เป็นได้
นี่เป็นการสรรเสริญที่เกินจริงไปมาก หนิงไฉ่เฉินกลัวว่าตนจะประสบปัญหา แต่ท้ายที่สุด เขาก็เปรียบเทียบจักรพรรดินีกับผู้หญิงคนอื่นในโลก
เมื่อถึงคราวของเหยินปาเชียน เขาก้าวไปหนึ่งก้าว การสรรเสริญของเขานั้นรวบรวมพรสวรรค์ทางวรรณกรรมที่น่าประหลาดใจตั้งแต่สมัยโบราณ วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ทุกคนที่ครองบัลลังก์ในโลกนี้ และผู้ปกครองของแคว้นต่าง ๆ ด้วย
ก่อนที่องค์จักรพรรดินีจะลงมาเกิดในโลกนี้ โลกนี้ยังคงอยู่ในความมืดมิดแม้กระทั่งใครก็ตาม หลังจากการลงมาเกิดขององค์จักรพรรดินี โลกนี้ก็เต็มไปด้วยความสว่างไสวอย่างแท้จริง
เมื่อเทียบกับจักรพรรดินีแล้ว ทุกคนก็เป็นแค่เพียงหิ่งห้อยเท่านั้น
คนอื่นยังสามารถตอบสนองได้หลังจากสิ่งที่หนิงไฉ่เฉินพูด แต่หลังจากที่เหยินปาเชียนพูด ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลย
ถ้อยคำนี้น่าประทับใจทีเดียว
พูดถึงวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ในโลกนี้ราวกับไม่มีใคร และพูดถึงวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่นับไม่ถ้วนกว่าล้านปีราวกับไม่มีอะไร ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะพูดคำแบบนี้ในหมู่ครอบครัวของตัวเองด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการพูดในสถานที่แบบนี้เลย
หลังจากที่ได้สติจากความประหลาดใจแล้ว ผู้คนจากมหาจักรวรรดิเซี่ย แคว้นหยูน และแคว้นเฉินต่างก็มองหน้าเหยินปาเชียน การประจบสอพลอของเขาไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ ?
ในตอนนี้ ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าการประจบสอพลอของเหยินปาเชียนนั้นมากเกินไป และอาจทำให้จักรพรรดินีเข้าใจผิดได้
ฉีจี่เซียวอาจไม่จำเป็นต้องได้รับการสรรเสริญนี้ด้วยซ้ำ
หากไม่พูดถึงความแข็งแกร่งและปัจจัยอื่น ๆ นางก็เป็นเพียงสุดยอดผู้ทรงพลังอันดับ 7 ของโลกเท่านั้น ยังไม่ใช่อันดับ 1 แต่อย่างใด
ถ้าหากนางได้รับการสรรเสริญและข่าวได้แพร่ออกไป สุดยอด 6 คนก่อนหน้านางจะรู้สึกอย่างไร ? จักรพรรดิของมหาจักรวรรดิเซี่ยจะมองอย่างไร ?
นางคิดจริง ๆ หรือว่าไม่มีใครนอกจากนางในโลกนี้น่ะ ?
ความเงียบแผ่ไปทั่วห้องโถงพระราชวัง ทุกคนเงียบแล้วรอบทสรุป
ผู้คนจากทั้งสามแคว้นเชื่อว่าข้าราชการต้าเย่าตรงข้ามกับพวกเขานั้นมีความคิดเห็นเช่นเดียวกัน
พวกเขาไม่ได้เงียบกันอยู่แล้วหรอกเหรอ ?