ตอนที่ 110: ภูเขาดาบ ดาบวิญญาณ จอมดาบ ทาสดาบ
350 Viewsเหยินปาเชียนมองไปที่หนิงไฉ่เฉินซึ่งแต่งตัวมอมแมมกำลังถือดาบไว้ เขาคิดกับตัวเอง “เห้ย นี่มันเรื่องจริงเหรอเนี่ย ?”
ละครเรื่องเต็มในคืนนี้ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่การเรียกดาบไปจนถึงหนิงไฉ่เฉินหมดสติเพราะแรงระเบิด ตามมาด้วยการมาถึงของดาบ สิ่งต่าง ๆ ได้เปลี่ยนใหม่อย่างกระทันหันและลดฮวบลงตั้งแต่เริ่ม
ถึงแม้ว่าเหยินปาเชียนจะไม่รู้ตำแหน่งของดาบในมหาจักรวรรดิเซี่ย แต่เมืองหลานก็ค่อนข้างห่างจากชายแดนพอสมควร การที่จะให้ดาบบินมาใน 10 นาที อย่างน้อยก็จะต้องบินด้วยความเร็วเสียง หรืออาจจะเป็นอะไรที่เร็วกว่านั้น
ดาบเล่มเล็กที่เคลื่อนที่บนท้องฟ้าด้วยความเร็วเสียงถูกยิงตกด้วยลูกธนูดอกเดียว
มันทำให้เหยินปาเชียนนึกถึงเครื่องบินรบที่ถูกยิงตกในครั้งเดียว โลกทั้งใบจึงสั่นสะเทือน เขาไม่ได้คิดถึงความจริงที่ว่าดาบเล่มนั้นสามารถบินได้ด้วยตัวมันเอง หรือการที่มันสามารถควบคุมทิศทางได้อย่างแม่นยำแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ทำให้เหยินปาเชียนประหลาดใจก็คือ มันถูกยิงตกด้วยการยิงเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นลับหลังตัวเขา เหยินปาเชียนมองไปที่ดาบในมือของหนิงไฉ่เฉิน มีจุดเล็ก ๆ อยู่ตรงกลางคมดาบและมีรอยร้าวแผ่ออกมาจากจุดนั้น ทำให้รู้สึกได้ว่ามันจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ เพียงแค่แตะเบา ๆ
ก่อนหน้านี้ ในตอนที่ดาบบินมาถึง ก็มีเสียงดังบนท้องฟ้า แต่หลังจากการระเบิด เสียงดังก็ค่อย ๆ จางหายไป
ดูเหมือนว่าจะมีเพียงคนเดียวในบริเวณใกล้เคียงที่สามารถยิงดาบตกลงไปได้ในครั้งเดียว นั่นคือองค์จักรพรรดินีสินะ ? เหยินปาเชียนไม่แน่ใจว่าจักรพรรดินีรู้วิธีการยิงธนูหรือไม่ แต่ถ้าพูดถึงความสามารถล่ะก็ เนื่องจากนางเป็นถึงสุดยอดผู้ทรงพลังอันดับ 7 ของโลก นางก็คงจะมีความสามารถเช่นนั้นเป็นแน่แท้
หลังจากที่คิดวนไป เหยินปาเชียนก็ได้ข้อสรุปว่าจะต้องเป็นองค์จักรพรรดินีที่ยิงดาบตกลงมาอย่างแน่นอน
เขาเคยเห็นการกระทำของฉวนหย่งหลินกับฉวนหย่งเหอก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาทำให้ตนตกใจมากด้วยเช่นกัน แต่มันเป็นอะไรที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับสิ่งที่ตนเพิ่งได้เห็น
ถึงแม้ว่าคนอื่นจะมีพลังมากกว่าพวกเขาทั้งคู่ แต่ก็ยังเป็นไปไม่ได้อยู่ดีที่พวกเขาจะบรรลุระดับพลังนี้
นอกจากนี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ทหารหลวงในพระราชวังจะมีความสามารถเช่นนั้น
คนที่เป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวคือองค์จักรพรรดินี ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นไปได้สูงว่านางอารมณ์ไม่ดีอีกด้วย มันเหมือนกับปีที่แล้วที่ผู้โชคร้ายทั้ง 10 คนได้ท้าสู้จักรพรรดินีและพ่ายแพ้ไป
ในตอนที่เขาคิดถึงข้อเท็จจริงเหล่านี้ เหยินปาเชียนก็ได้มองไปที่หนิงไฉ่เฉินด้วยสายตาที่น่าเวทนา เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับว่าเขาทุกข์ทรมานมากทีเดียว
ถึงแม้ว่าเหยินปาเชียนจะไม่เข้าใจอะไรเลย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะจินตนาการว่าดาบเล่มนี้มีค่าสำหรับหนิงไฉ่เฉินมากเพียงใด
ในขณะที่หนิงไฉ่เฉินได้ประสบกับช่วงเวลาเฉียดตายและได้เรียกดาบออกมา มันดันไปขัดกับจักรพรรดินีที่กำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่พอดี ผลสุดท้ายก็ลงเอยด้วยประการฉะนี้
ในตอนนี้ เหยินปาเชียนอยู่ในสภาพจิตใจที่ผ่อนคลายและจมไปกับความคิดเพ้อเจ้อ ในตอนที่ดาบบินมาถึงเมื่อครู่นี้ เขาสงสัยว่าพวกหมาป่าจะรู้สึกอย่างไร พวกมันทุกตัวได้ถอยกลับเข้าไปในที่มืด ทิ้งซากไว้ 2 ซาก และหมาป่าที่บาดเจ็บสาหัส 2 ตัวกำลังจะตาย
หลังจากที่หนิงไฉ่เฉินร้องไห้เป็นระยะเวลาหนึ่ง เหยินปาเชียนก็ตบไหล่เขาพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสาร “เสียใจด้วยนะ..”
หนิงไฉ่เฉินยิ่งร้องไห้ออกมาหลังจากได้ยินสิ่งที่เหยินปาเชียนพูด
เมื่อมองดูความหมดหวังของเขา เหยินปาเชียนก็รู้สึกว่าควรจะปล่อยให้หนิงไฉ่เฉินร้องไห้ออกมาสักพักหนึ่ง
การที่ผู้ชายร้องไห้ไม่ใช่เรื่องที่ผิด
เหยินปาเชียนไม่มีอะไรทำ เขาเติมกระสุนใส่ซองกระสุนปืนพก หลังจากนั้น เขาก็เหม่อลอยด้วยความว่างเปล่า และหลังจากนั้นไม่นาน หนิงไฉ่เฉินก็สงบลงในที่สุด เขาลูบดาบของตัวเอง ดูราวกับว่าเขาไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไร เหยินปาเชียนถามออกมาด้วยความอยากรู้ “ดาบเล่มนี้สามารถซ่อมได้มั้ย ?”
“มันต้องใช้วัสดุจำนวนมากเลยนะเพื่อซ่อมให้สมบูรณ์แบบน่ะ” หนิงไฉ่เฉินพูดออกมาด้วยความเศร้าโศก
“ไม่เห็นจะแย่ตรงไหนเลย” เหยินปาเชียนปลอบใจเขา “อย่างน้อยมันก็ยังซ่อมได้นะ”
หนิงไฉ่เฉินยังคงโศกเศร้า
“เจ้าเป็นผู้ฝึกดาบหรอ ?” เหยินปาเชียนถามอีกครั้ง หากไม่พูดถึงปัจจัยอื่น อย่างน้อยที่สุดเขาก็สามารถเรียกดาบจากมหาจักรวรรดิเซี่ยได้ ทักษะนี้เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากทีเดียว
“ข้ามันก็แค่ทาสดาบน่ะ” หนิงไฉ่เฉินส่ายหน้าแล้วตอบด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว
“ทำไมเจ้าถึงพูดอย่างนั้นล่ะ ?” เหยินปาเชียนถามด้วยความอยากรู้เพราะเขาสนใจมาก
“เจ้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเหรอ ?” หนิงไฉ่เฉินหันหน้าแล้วมองไปที่เหยินปาเชียน เมื่อเห็นว่าเขาพยักหน้า เขาจึงก้มหน้า ลูบดาบแล้วเริ่มพูดออกมา “ในโลกนี้มีภูเขาดาบ บนภูเขานั้นมีดาบวิญญาณ 3,000 เล่ม ไข่มุกสีเขียวก็เป็นหนึ่งในนั้น
ในบางครั้ง ดาบวิญญาณจะสัมผัสได้ว่ามีคนหน้าใหม่ในโลกนี้ที่ตรงกับความต้องการของมัน แล้วจะบินลงจากภูเขามาเอง จนมาถึงข้างตัวของผู้นั้น
คนอื่นจะเรียกคนเหล่านี้ว่าจอมดาบ การที่คนเหล่านี้ถูกดาบวิญญาณเลือก เนื่องจากคนเหล่านี้ตรงกับความต้องการของมันนั่นเอง กลุ่มคนเหล่านี้เป็นที่อิจฉาของคนอื่น ในความเป็นจริงแล้ว พวกเราก็เป็นแค่ทาสดาบเท่านั้นแหละ… ”
เหยินปาเชียนถามหนิงไฉ่เฉิน แล้วเขาก็ตอบไป แถมหนิงไฉ่เฉินยังไม่ได้ปกปิดประเด็นเรื่องจอมดาบอีกด้วย มันทำให้เหยินปาเชียนมีความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับจอมดาบ และเขาก็ได้รับรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
โดยพื้นฐานแล้ว จอมดาบจะถูกคัดเลือกโดยดาบวิญญาณ ในแง่มุมหนึ่ง มันเป็นอะไรที่ดีเพราะไม่จำเป็นต้องฝึกฝนแต่อย่างใด ตราบใดที่ดาบวิญญาณอยู่ในมือของใครสักคน บุคคลนั้นก็จะสามารถข้ามขั้นตอนและกลายเป็นสุดยอดผู้เป็นที่รู้จักได้
ยิ่งไปกว่านั้น การใช้ดาบวิญญาณประเภทต่าง ๆ พลังก็จะแตกต่างกันไป ในจำพวกนี้ ระดับต่ำสุดจะเป็นสุดยอดในระดับกงจักรดิน นอกจากนี้ ความสามารถนั้นจะแข็งแกร่งกว่าสุดยอดทั่วไปในระดับกงจักรดิน นี่เป็นความสำเร็จที่ผู้ฝึกหัดส่วนใหญ่สามารถเห็นได้ตลอดชีวิต
อย่างไรก็ตาม ในโลกใบนี้ หากมีได้ก็จะมีเสียอย่างแน่นอน ประโยคนี้อาจเหมาะสมที่สุดที่จะใช้กับจอมดาบ
อย่างแรก พวกเขาไม่สามารถฝึกฝนได้.. ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะกฎพิเศษที่ไม่อนุญาตให้พวกเขาฝึกฝนซึ่งอนุญาตให้ดาบวิญญาณเลือกพวกเขาให้เป็นจอมดาบ ไม่เคยมีจอมดาบคนไหนที่สามารถฝึกฝนศิลปะการต่อสู้เชิงลึกได้มาก่อน อย่างมากพวกเขาก็สามารถฝึกฝนกระบวนท่าเตะต่อยพื้น ๆ พวกเขาไม่ได้แตกต่างจากคนทั่วไปในทุกด้านเลย
หากให้ยกตัวอย่าง หนิงไฉ่เฉินก็เป็นหนึ่งในนั้น ถ้าหากว่าดาบวิญญาณอยู่ในมือเขา เขาจะได้รับการยอมรับว่าเป็นสุดยอดที่สูงกว่าตำแหน่งสูงสุดในระดับกงจักรดินซะอีก มากซะจนตำแหน่งสูงสุดในระดับกงจักรดินก็เทียบกับเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่าดาบวิญญาณไม่ได้อยู่ในมือเขา เขาก็ไม่แตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงลุกลี้ลุกลน
ต่อมา โดยทั่วไปแล้วจอมดาบจะไม่ถือดาบวิญญาณไว้ใกล้ตัวตลอดทั้งวัน นั่นเป็นเพราะดาบวิญญาณจะดูดซับพลังชีวิตของจอมดาบ อาจจะไม่มีผลกระทบในระยะสั้น แต่ในระยะยาว มันจะลดอายุขัยของจอมดาบลงอย่างมาก เมื่อไม่กี่วันก่อน มีจอมดาบเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีอายุเกิน 40 ปี
เพราะฉะนั้น ถึงแม้ว่าคนอื่นจะเรียกพวกเขาว่าเป็นผู้จอมดาบ โดยทั่วไปแล้วพวกเขาก็รู้สึกว่าตนเองเป็นแค่ทาสดาบ ตามที่ชื่อสื่อความหมาย พวกเขาเป็นเสมือนทาสของดาบวิญญาณ ถึงแม้ว่าดาบวิญญาณจะทำให้พวกเขามีพลังมากขึ้น แต่ทว่า พวกเขาก็ยังต้องใช้เวลาและพลังงานจำนวนมากด้วยเช่นกัน
ต่อจากนั้น ผู้ที่มีความสามารถโดยกำเนิดก็ได้สร้างบ่อทะนุบำรุงดาบผ่านการค้นคว้าวิจัย เขาได้ก่อสร้างบ่อน้ำด้วยวิธีการเฉพาะ หลังจากนั้นเขาก็โยนวัสดุอันมีค่าทุกประเภทลงไปและใช้มันเพื่อทะนุบำรุงดาบ
เพราะฉะนั้น นอกเหนือจากการลดผลร้ายที่จะเกิดขึ้นกับโลหิต ลมปราน และญาณของจอมดาบแล้ว ก็จะสามารถเพิ่มพลังที่น่ากลัวของดาบวิญญาณได้ มันเทียบเท่ากับการเพิ่มพลังของจอมดาบ
แร่ธาตุ พืช หรือแม้กระทั่งเลือดสัตว์บางชนิดก็รวมอยู่ในนั้นด้วย นอกจากนี้ยังต้องใช้ของเหลวผสมเฉพาะอีกด้วย อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติของดาบวิญญาณแต่ละเล่มนั้นไม่ได้เหมือนกันซะทั้งหมด นอกเหนือจากของเหลวผสมเฉพาะที่ใช้ในการทะนุบำรุงดาบ ส่วนผสมที่จำเป็นอย่างอื่นนั้นก็ไม่ได้เหมือนกันแต่อย่างใด
บ่อยครั้ง มันต้องการให้จอมดาบหาโอกาสค้นหาวัสดุที่จะเข้าคู่กับดาบวิญญาณโดยเฉพาะ มันเป็นเพราะทั้งสองฝ่ายเป็นคู่หูที่แท้จริง แล้วมันก็จะได้รับรู้เมื่อจอมดาบค้นพบวัสดุที่เหมาะสม
ก่อนหน้านี้ ดาบวิญญาณของหนิงไฉ่เฉินอยู่ที่บ่อทะนุบำรุงดาบ และอยู่ระหว่างการทะนุบำรุง หากเขาพบกับอันตรายใด ๆ เขาจะสามารถเรียกดาบวิญญาณเมื่อเขาต้องการได้
ถ้าหากตำแหน่งนั้นอยู่ใกล้บ่อทะนุบำรุงดาบล่ะก็ ดาบวิญญาณก็จะมาถึงในพริบตา
เมื่อมาถึงต้าเย่า หนิงไฉ่เฉินก็ต้องการแสวงหาโอกาสในการแลกเปลี่ยนสิ่งของด้วยเช่นกัน เขาไม่เคยคิดว่าตนเองจะอับโชคในตอนนี้ ไข่มุกสีเขียวถูกยิงตกเมื่อมันมาถึง ยิ่งไปกว่านั้น ไข่มุกสีเขียวยังได้รับความเสียหายรุนแรงอีกด้วย ไม่รู้ว่าจะต้องใช้วัสดุเท่าไหร่ในเพื่อให้การซ่อมแซมสมบูรณ์
อาจกล่าวได้ว่า เขาได้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาลงทุนไปแล้ว
ไม่น่าแปลกใจที่หนิงไฉ่เฉินดูราวกับว่าเขาไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไร
หลังจากที่ได้ฟังเรื่องดาบวิญญาณและจอมดาบแล้ว เหยินปาเชียนก็รู้สึกว่าโลกใบนี้ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
โลกใบนี้มีอะไรที่แปลกประหลาดและแง่มุมมากมายที่เหยินปาเชียนรู้สึกว่ามันลึกลับ
มันน่าสนใจมากเพียงแค่เปิดชั้นผ้าฝ้ายบาง ๆ บนพื้นผิวในขณะนี้ ไม่รู้ว่าจะพบสิ่งใดภายใต้ชั้นนั้นอีก
ในกรณีนี้ เหยินปาเชียนได้ถูกคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส, เจิ้งเหอ และมังกี้ ดี ลูฟี่ ครอบงำเข้าแล้ว ในใจส่วนลึกของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะค้นพบโลกใบนี้มากยิ่งขึ้น