ตอนที่ 95: แทงใจดำด้วยคำพูด
301 Viewsโชคดีที่หงเสี้ยนไม่ได้หมายเอาชีวิตตู้ฉางคง เธอออมมือให้ตลอด เมื่อเห็นว่าเขาไม่สามารถลุกขึ้นได้แล้ว เธอจึงถ่มน้ำลายใส่หน้าเขาด้วยความเหยียดหยาม
“สวยมากหงเสี้ยน” ผู้คนมากมายต่างเชียร์หงเสี้ยนแล้วเข้ามาล้อมรอบตัวเธอ
ผู้คนที่เหลือต่างก็แยกย้ายกันไปเมื่อเห็นการแสดงจบลง
การบาดเจ็บของตู้ฉางคงไม่ได้ร้ายแรงสักเท่าไหร่ เขาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ เนื่องจากเขาอ่อนกำลังลง เขาจึงพยุงตัวเองขึ้นมาไม่ได้
เมื่อเหยินปาเชียนเห็นท่าที่ตู้ฉางคงนอนอยู่กับพื้น เขาก็ถอนหายใจยาว ๆ เขาก้าวไปข้างหน้าเพื่อดูว่าเพื่อนร่วมทีมเลือดร้อนหน้าโง่ของเขาได้ทำอะไรลงไป
“เจ้ายืนไหวมั้ย ?” เหยินปาเชียนนั่งลงด้านข้างตู้ฉางคงแล้วถามเขา
“นางหงผู้นี้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ การโจมตีของเธอโหดเหี้ยมจนเกือบจะเอาชีวิตข้าไปได้แล้วมั้ยล่ะ” มีแผลเปิดอยู่บนใบหน้าของตู้ฉางคงไม่เยอะ แต่ก็มีรอยฟกช้ำหลายจุด ตอนนี้เขากำลังหอบอย่างหนักหน่วง
เหยินปาเชียนไม่ได้พูดอะไร นายโชคดีนะที่มีชีวิตรอดมาได้น่ะ ถึงนายจะโง่ก็เถอะ แต่นายก็น่าจะบอกได้นะว่าเธอไม่ได้เอาจริงกับนาย ดูจากท่าที่เธอต่อยเตะนายลอยขึ้นไปในอากาศแล้ว บอกได้เลยว่าเธอแข็งแกร่งกว่านายมาก ถ้าเธอตั้งใจที่จะฆ่านายล่ะก็ นายคิดหรอว่านายจะนอนครวญครางอยู่ตรงนี้เหมือนที่นายกำลังทำอยู่ตอนนี้ได้น่ะ ?
นี่นายคิดว่านายแค่พ่ายแพ้รึไง ? นายจะต้องทรมานในอนาคตด้วยล่ะนะ
เมื่อเหยินปาเชียนนึกถึงหงเสี้ยน เขาก็ลังเลเล็กน้อยที่จะคิดจะขอหน้าไม้คืนจากเธอ เขาเชื่อว่าเธอยังอารมณ์ฉุนเฉียวอยู่ ถ้าหากเขาไปขอเธอตอนนี้ล่ะก็ เขาอาจจะประสบปัญหาได้
ช่างมันเหอะ เรายังมีปืนพกอยู่ ในตอนแรกเหยินปาเชียนต้องการใช้ปืนพกซุ่มโจมตีคนอื่น ตอนนี้เขาต้องระมัดระวังมากขึ้นและไม่ให้คนอื่นรู้เรื่องปืนพกของตน
ตราบใดที่ไม่มีใครเห็นเขาล่าสัตว์ด้วยปืนพก ก็ไม่มีใครจะรู้หรอกว่ามันคืออะไร
เหยินปาเชียนไม่สนใจตู้ฉางคงแล้ว เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไป
ทางอีกด้าน หงเสี้ยนและลูกน้องได้เห็นเหยินปาเชียนนั่งยอง ๆ อยู่ข้างตู้ฉางคง หงเสี้ยนพูดออกมาด้วยความฉุนเฉียวขึ้นหน้าหน้า “ข้ากำลังคิดว่าทำไมไอ้กระจอกนั่นวันนี้ถึงได้ห้าวจัง !”
“ข้าได้ยินมาว่าผู้รักษาการหงหลูไม่ได้มาจากต้าเย่า ข้าคิดว่าน่าจะเป็นมันนี่แหละ มันกล้าดียังไง ? ข้าจะไปสั่งสอนมันเดี๋ยวนี้แหละ” สาวน้อยคนหนึ่งพูดออกมาทันที
ไม่มีใครคัดค้านความคิดของเธอ ถึงยังไงเหยินปาเชียนก็เป็นแค่ผู้รักษาการแทนหงหลู นอกจากนี้ เขาก็ไม่ได้มาจากต้าเย่า เหล่าบุตรชายและบุตรสาวของข้าราชสำนักไม่ได้สนใจเรื่องนี้เท่าไรนัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเธอรู้ว่าคำที่ตู้ฉางคงเพิ่งได้พูดออกไปนั้นเจ้าหนุ่มคนนี้เป็นคนสอน พวกเธอก็ยิ่งไม่พอใจเหยินปาเชียนมากกว่าตู้ฉางคงเสียอีก
ในตอนที่เหยินปาเชียนลุกขึ้นยืนแล้วเดินขึ้นบันไดไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็เห็นสาวน้อยคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หงเสี้ยนเดินเข้าไปมาตน เธอสูงประมาณ 165 เซนติเมตร ผิวของเธอมีสีแทนเล็กน้อยคล้ายกับสีข้าวสาลี แถมเธอยังสวมชุดแนบเนื้ออีกด้วย
ตู้ฉางคงอยู่ข้างหลังเขา อย่างไรก็ตาม เขาเพิ่งจะพ่ายแพ้อย่างหมามาหยก ๆ ดังนั้นสาวน้อยจึงไม่น่าจะมองไปที่เขาหรอก ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าสาวน้อยคนนี้ได้จ้องมองมาที่เหยินปาเชียน
เหยินปาเชียนก้าวไปด้านข้างเขาเล็กน้อย ถ้าหากว่าสาวน้อยไม่ได้มองมาที่เขา เขาก็สามารถเดินผ่านเธอไปได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาพยายามทำนั้นสูญเปล่า กลายเป็นว่าอีกฝ่ายเดินเข้ามาหาเขาเอง
“เจ้าเป็นคนสอนคำพูดเหล่านั้นให้มันสินะ ?” สาวน้อยถามด้วยความหยาบคายพร้อมกับเดินเข้าไปหาเหยินปาเชียน
“เปล่าซะหน่อย” เหยินปาเชียนส่ายหน้าแล้วตอบกลับ เขาไม่สามารถยอมรับผิดเรื่องนี้ได้ มิฉะนั้นจะทำให้เขาประสบปัญหาหนักได้
“ถุยย ! ไอ้คนปอดแหกที่ไม่กล้ายอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำเอ๊ย !” สาวน้อยพูดดูถูกเหยียดหยาม
เหยินปาเชียนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ นี่เธอมั่นใจว่าเราได้สอนคำพูดเหล่านั้นให้ตู้ฉางคงหรอเนี่ย ? ทั้งหมดที่เขาต้องการคือการเอาหน้าไม้กลับคืนมา แต่เขาไม่คิดว่าตนจะสร้างปัญหามากขนาดนี้
“ข้าเปล่าจริง ๆ เด้อ”
“ข้าไม่สนใจหรอกว่าจะเป็นเจ้าหรือไม่ ข้าก็แค่อยากให้เจ้ารู้เอาไว้ว่าเจ้าจะไม่ได้ของสิ่งนี้คืนหรอก ถ้าเจ้าสามารถล่ะก็ มาเอากลับไปด้วยตัวเองสิ ไอ้ปอดแหก” เมื่อพูดจบแล้ว เธอก็หันไปมองเหยินปาเชียน แล้วหันหลังเดินออกไป
เหยินปาเชียนยืนอยู่ที่จุดเดิมสักพัก ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะลั่นออกมา
เธอน่ะอาจเป็นบุตรสาวของข้าราชสำนัก แต่ตัวเราน่ะเป็นข้าราชสำนักเองเลยนะเว้ย ยังไงซะ ตำแหน่งของเราก็เป็นถึงตำแหน่งสำรองขั้นที่ 6 เธอคิดหรอว่าเธอสามารถข่มขู่เราได้ตามที่ต้องการน่ะ ?
เธอคิดว่าเราเป็นคนที่พ่ายแพ้ได้ง่ายรึไงเนี่ย ?
เป็นไปไม่ได้เลยที่เหยินปาเชียนจะไม่รู้สึกโกรธ เพราะเขาก็เป็นหนุ่มน้อยซะด้วยสิ ถึงแม้ว่าแขนของเขาจะไม่หนาเท่าพวกนั้น แต่เขาก็ยังรู้สึกโกรธเมื่อถูกปฏิบัติเช่นนี้
ตอนแรกไอเราก็เตรียมยอมยกหน้าไม้ให้อยู่หรอก แต่ตอนนี้เราต้องเอากลับคืนมาแล้วล่ะ
ไม่งั้นเราจะอยู่รอดในต้าเย่าได้ยังไงล่ะ ? ถ้าหากว่าทุกคนเข้ามาข่มขู่เราได้ล่ะก็ คำว่า “ไอ้ปอดแหก” จะติดอยู่กับเราไปอีกนานเท่านานเลยล่ะ ถ้าหากว่าใครซักคนพยายามจะทำแบบนี้กับเราอีกในอนาคตล่ะ เราจะทำอะไรได้บ้างนะ ?
องค์จักรพรรดินีทรงอยู่ใกล้แท้ ๆ พระองค์จะมิทรงรับรู้ถึงสถานการณ์นี้ได้ยังไงล่ะ ? บางทีนี่อาจเป็นเพียงปัญหาเล็ก ๆ เท่านั้น และพระองค์ก็คงไม่อยากวุ่นวายกับเรื่องพรรค์นี้ แต่ทว่า พระองค์จะทรงคิดยังไงถ้าหากว่าเราทำตัวเหมือนคนปอดแหกในตอนนี้ ? เหยินปาเชียนรู้สึกว่าสุดยอดผู้ทรงพลังมากที่สุดอันดับ 7 ของโลกไม่ยอมรับในความขี้ขลาดของตน ทำไมพระองค์ถึงได้ใช้คนที่ถูกพวกเด็กวัยรุ่นไม่กี่คนข่มขู่อย่างเรากันนะ ?
เมื่อความคิดเหล่านี้วิ่งผ่านจิตใจของเหยินปาเชียน เขาก็เดินไปหาหงเสี้ยนพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
สาวน้อยคนนั้นได้กลับมาหาหงเสี้ยนแล้วพึมพำออกมา “ไอ้คนปอดแหกที่ไม่กล้ายอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำ”
อย่างไรก็ตาม เธอได้ค้นพบทันทีว่าทุกคนกำลังมองอยู่ข้างหลังเธอ
เธอหันกลับไปแล้วก็ได้เห็นคนปอดแหกเดินเข้าหาพวกเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
แต่รอยยิ้มนั้นดูเหมือนจะเยือกเย็นเล็กน้อย
เหยินปาเชียนเดินไปที่กลุ่มคนแล้วชี้ไปที่หน้าไม้ในมือของพวกเธอแล้วพูดออกมา “ของสิ่งนั้นเป็นของข้า”
“มันไม่ใช่ของเจ้าแล้วย่ะ” สาวน้อยที่ได้ด่าทอเหยินปาเชียนก่อนหน้านี้ได้หันกลับมาแล้วตอบกลับพร้อมกับเงยหน้าขึ้น
“เจ้าดำรงตำแหน่งข้าราชการตำแหน่งอะไรหรอ ?” เหยินปาเชียนยิ้มแล้วถามออกมา
“เจ้าจะสนใจตำแหน่งข้าราชการที่ข้าดำรงอยู่ไปทำไมล่ะ ? ข้าไม่สนใจผู้รักษาการแทนขั้นที่ 6 หรอกนะ” สาวน้อยหัวเราะเยาะ
คนที่เหลือต่างหัวเราะลั่นออกมา พวกเขาไม่สนใจผู้รักษาการแทนขั้นที่ 6
ถ้าหากว่าเหยินปาเชียนเป็นชนเผ่าล่ะก็ พวกเธออาจจะไม่ทำอะไรเกินเลยเช่นนี้ แต่เนื่องจากเขาเป็นคนต่างดินแดน พวกเธอจึงไม่กลัวเขาแต่อย่างใด
เมื่อเหยินปาเชียนได้เห็นท่าทางที่ห้าวหาญและยโสโอหังบนหน้าของพวกเธอ ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสของเขาก็เยือกเย็นกว่าเดิม
เหยินปาเชียนพูดออกมาเสียงดังฟังชัด “ข้าไม่สนใจว่าตำแหน่งข้าราชการที่บรรพบุรุษ ปู่ หรือพ่อของเจ้าดำรงหรอก พวกเค้าต่างหากที่เป็นคนดำรงตำแหน่งข้าราชการ ไม่ใช่เจ้า พวกเค้าเป็นคนที่ได้รับเงินเดือนจากราชสำนัก ไม่ใช่เจ้า โดยปกติเมื่อผู้คนหลีกทางให้เจ้า ไม่ใช่เพราะเจ้ายิ่งใหญ่เลย แต่เป็นเพราะบรรพบุรุษ ปู่ และพ่อของเจ้าต่างหากล่ะ พวกเค้าไม่ต้องการทำให้เจ้ากระดากอายเว้ย
พวกเจ้ามีคุณสมบัติอะไรถึงได้มาดูถูกผู้รักษาการแทนขั้นที่ 6 ? ถึงแม้ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นข้าราชการขั้นที่ 9 ก็ตาม แต่เค้าก็ยังได้รับเงินเดือนจากราชสำนัก ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่ได้มีผลงานความดีความชอบในต้าเย่าเลย แต่เค้าก็ยังทำงานหนักอยู่ดี แคว้นนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยเลือดและเหงื่อของข้าราชการนะ
เจ้าสามารถดูถูกข้าได้ แต่ตำแหน่งข้าราชการของข้าได้รับพระเกียรติจากพระองค์ เนื่องจากข้าได้รับเงินเดือนจากราชสำนัก และข้าทำงานเพื่อพระองค์ ข้าเป็นหน้าเป็นตาของราชสำนัก อะไรทำให้พวกเจ้ามีความชอบพอที่จะมาดูถูกข้าได้ ?
พวกเจ้ากล้าดียังไงถึงได้มาฉกฉวยทรัพย์สินของข้าราชการ ? พวกเจ้าควรทำแบบนั้นเหรอ ?
ท่าทางเจ้าจะไม่สนใจเกี่ยวกับพระองค์และราชสำนักเลยสินะ ?
ท่าทางเจ้าจะกล้าฆ่าข้าราชการสินะ ? เพราะเจ้ากล้าขโมยของจากข้าราชการ เจ้าก็คงกล้าพอที่จะฆ่าข้าราชการด้วยใช่มั้ยล่ะ ?”
เมื่อเหยินปาเชียนพูดจบประโยคแล้ว ความเงียบสนิทก็กวาดไปทั่วพื้นที่ในทันที
เหยินปาเชียนพูดค่อนข้างดัง ดังนั้นผู้คนมากมายจึงได้ยินสิ่งที่เขาพูด
ทุกคนหันไปมองเหยินปาเชียนและหงเสี้ยนพร้อมกับผู้ติดตามของเธอ ผู้คนมากมายได้หยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่แล้วลุกขึ้นยืน
ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสของหงเสี้ยนและผู้ติดตามของเธอแข็งทื่อ สายของผู้ชมทิ่มแทงเหมือนเข็ม
“เจ้ากล้าดียังไงถึงได้มาสั่งสอนข้า ?” สาวน้อยมีสีหน้าอันเหลือเชื่อ จากนั้นเธอก็พูดออกมา “เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกันแน่ ?”
“ข้าไม่ใช่พ่อของเจ้า ข้าไม่กล้าสั่งสอนเจ้าหรอก ส่วนที่เจ้าถามว่าตัวข้าเป็นใคร ทำไมเจ้าไม่ถามพระองค์ว่าการแต่งตั้งข้าราชการคืออะไร ? ดูเหมือนว่าบรรพบุรุษของเจ้ากับข้าก็เป็นแบบเดียวกัน” เหยินปาเชียนตอบอย่างรุนแรง สิ่งเดียวที่เขาสามารถพึ่งพาได้คือความจริงที่ว่า หนุ่มสาวที่เข้าร่วมการล่าครั้งใหญ่ไม่ใช่ข้าราชสำนัก ผู้ที่ดำรงตำแหน่งข้าราชการจะไม่เข้าร่วมในการล่าครั้งใหญ่
ผู้ที่เข้าร่วมในการล่าครั้งใหญ่อาจจะถูกส่งไปยังกองทัพหรือที่อื่น แต่จะเกิดขึ้นในอนาคตเท่านั้น
เหยินปาเชียนเป็นข้อยกเว้น เขาคือผู้รักษาการแทนขั้นที่ 6 ที่ตกลงมาจากฟ้า เขาถูกจักรพรรดินีเลือกให้เข้าร่วมในการล่าครั้งใหญ่ ดังนั้นเขาจึงแตกต่างจากคนอื่น ๆ
หลังจากได้ยินคำพูดของเหยินปาเชียน สาวน้อยจึงหัวร้อน เธอยกมือขึ้น เธอต้องการจะตบเจ้าหนุ่มนี่ให้ตายคามือ
เหงื่ออันเยือกเย็นเกิดขึ้นที่หลังของเหยินปาเชียน ใครก็ได้เข้ามาหยุดยัยบ้านี่ทีสิ ! ถ้าเธอตอบเราจริง ๆ ล่ะก็ เราตายแน่ ถึงเธอจะถูกลงโทษอย่างหนักมันก็สายไปแล้วเว้ย
อย่างไรก็ตาม เหยินปาเชียนรักษาความสงบของจิตใจของตน และยังคงมองไปที่เธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
“หลิ่วลั่วเหยา หยุดเลยนะ !” เสียงตะโกนดังขึ้นไปในอากาศ
ในขณะเดียวกัน ใบหน้าที่แข็งทื่อของหงเสี้ยนก็หายไปในที่สุด เธอเตะไปที่แขนของหลิ่วลั่วเหยาในทันที
“อย่าห้ามข้า ข้าจะฆ่ามัน” ดวงตาของหลิ่วลั่วเหยามีสีแดงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเธอถูกทำให้หัวร้อนสุดขีดด้วยคำพูดของเหยินปาเชียน
“ท่าทางเจ้าจะกล้าฆ่าข้าราชการจริง ๆ สินะเนี่ย เจ้ากำลังพยายามกบฎต่อราชสำนักเหรอ ?” เหยินปาเชียนหัวเราะเยาะ
เหยินปาเชียนรู้ว่าหลิ่วลั่วเหยาเกลียดเขาแทบตาย ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะยั่วโมโหเธอมากนัก
เนื่องจากเขาได้ทำให้เธอโมโหแล้ว เขาจึงไม่สามารถถอยกลับได้ในตอนนี้