ตอนที่ 187: ภารกิจสำเร็จลุล่วง
98 Viewsทหารเล็งปืนไปที่เหยินปาเชียน จากนั้นก็มีใครบางคนเดินเข้ามาหาพวกเขาแล้วบอกอะไรบางอย่างกับพวกเขา แล้วคน ๆ นั้นก็พูดใส่วิทยุสื่อสารของเขาอีกครั้ง ในไม่ช้าทหารหนึ่งในนั้นก็ก้าวเข้ามาแล้วกระทุ้งปืนไรเฟิลใส่เหยินปาเชียน เมื่อเห็นว่าเหยินปาเชียนไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลย เขาจึงส่งสัญญาณมือให้กับทหารคนอื่นที่อยู่ข้างหลัง
เหยินปาเชียนพยายามที่จะไม่ขยับอย่างถึงที่สุดเมื่อคน ๆ นั้นกระทุ้งปืนไรเฟิลใส่ตน พูดจากใจ การแสร้งทำเป็นสลบนั้นไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่สามารถขยับหรือลืมตามองดูสิ่งรอบตัวได้เลย เขาไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในขณะนี้ สิ่งที่เขาทำได้ในเวลานี้คือภาวนาว่าจักรพรรดินีจะกลับมาโดยเร็ว มิฉะนั้นหากมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา มันคงเป็นความอยุติธรรมสำหรับเขาอย่างมากเลยทีเดียว
ณ เวลานี้ ปืนไรเฟิลประมาณ 6 กระบอกเล็งไปที่เหยินปาเชียน ทหารสองสามนายกำลังตรวจสอบศพอื่น ๆ ในขณะที่บางคนกำลังค้นหาตามดาดฟ้า
ทหาร 2 นายได้แบกเหยินปาเชียนขึ้นมาแล้ว เพราะว่าพวกเขาเตรียมที่จะนำตัวเขากลับไปทำการสอบสวน
ในขณะนั้น เงาสีแดงที่หิ้วคนไว้ก็ปรากฏตัวตรงมุมของดาดฟ้าในทันที เมื่อนางได้เห็นทหารบนดาดฟ้า นางก็ตกตะลึง
อย่าบอกนะว่าเกิดอะไรขึ้นกับหมอนั่นน่ะ ?
เมื่อนางคิดถึงเรื่องนี้ นางก็รู้สึกหวั่นวิตกเล็กน้อย
นางปรากฏตัวนอกกลุ่มทหารโดยไม่ต้องยั้งคิด ทหาร 4 นายถูกปะทะด้วยแรงมหาศาลก่อนที่พวกเขาจะตอบโต้ได้ ท่ามกลางเหตุการณ์ที่พวกเขาถูกจักรพรรดินีเข้าปะทะ อวัยวะภายในและกระดูกของพวกเขาถูกอัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย มันลอยลงมาจากดาดฟ้าโดยไม่มีเสียงใด ๆ
ก่อนที่เสียงของกระดูกที่ถูกอัดและปืนไรเฟิลที่หล่นลงบนพื้นจะดังก้องไปทั่ว ทหารอีกสองสามนายก็ถูกผลักตกลงมาจากดาดฟ้า
ถึงแม้ว่าทหารที่เหลืออยู่จะรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ปกติ แต่ชายครึ่งหนึ่งที่อยู่ข้างหลังพวกเขานั้นตายไปแล้ว และถูกโยนลงมาจากดาดฟ้าในตอนที่พวกเขาหันหลังกลับไป
เมื่อผู้คนที่อยู่ใต้อาคารเห็นศพมนุษย์หล่นลงมาจากดาดฟ้าราวกับเกี๊ยว พวกเขาก็ร้องเตือนทันที
ในตอนแรก ชายที่ถูกจักรพรรดินีลักพาตัวมามีความสุขมากเมื่อได้เห็นทหารบนดาดฟ้า อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นได้จักรพรรดินีลอยกลับไปกลับมาบนดาดฟ้าและทหารทั้งหมดได้หายไปภายในไม่กี่วินาที ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างและปากของเขาก็อ้าค้างด้วยความเหลือเชื่อ
“ขอโทษที่มาช้านะ” จักรพรรดินีอุ้มเหยินปาเชียนด้วยมือข้างเดียวแล้วพูดออกมา น้ำเสียงของนางมีแววของความละอายและความห่วงใย
เหยินปาเชียนมองไปที่จักรพรรดินีด้วยสายตาเบิกกว้าง เขายิ้มแล้วพูดออกมา “ไม่ช้าหรอก ฝ่าบาทกลับมาในเวลาอันควรแล้วล่ะ”
เมื่อครู่นี้ ตอนที่เขาได้ยินเสียงร้องเตือนชั่วขณะ จิตใจของเขาก็โล่ง ตอนที่ทหารสองนายที่หามเขาไว้ปล่อยมือออกในทันทีนั้น เขาไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด ยังคงความสงบนิ่งเอาไว้
อันที่จริงแล้ว ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นกับเขามากนัก เป็นเพราะการกลับมาของจักรพรรดินีในเวลาที่ประจวบเหมาะ ทหารเหล่านั้นตั้งใจแค่จะพาเขากลับไปสอบสวนและยังไม่ทันได้ทำอะไรกับเขาเลย
อย่างไรก็ตาม เขายังคงเยินยอตัวเองอยู่เงียบ ๆ ในด้านไหวพริบและความทุ่มเทที่เขาแสร้งทำเป็นสลบ
“ย้ายที่กันเถอะ พวกเราถูกค้นพบที่นี่แล้ว” เหยินปาเชียนพูด จักรพรรดินีหิ้วเขากับชายคนนั้นออกจากดาดฟ้าอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาอันสั้น พวกเขาก็มาถึงมุมเงียบสงบที่ชายขอบเมือง
จักรพรรดินีวางเหยินปาเชียนลงอย่างระมัดระวัง ชายที่นางกำลังหิ้วด้วยแขนอีกข้างเกือบจะหายใจไม่ออกตาย หลังจากที่นางปล่อยเขา เขาก็นอนลงบนพื้นแล้วกระแอมไออย่างไม่หยุดหย่อน
“เอ๊ะ ?” เมื่อแสงรอบข้างส่องไปบนใบหน้าของชายคนนั้น ดูเหมือนว่าเหยินปาเชียนจะคิดถึงอะไรบางอย่าง
น่าจะเป็นคนนั้นรึเปล่า ? ถ้าเป็นคนนั้นจริง ๆ ล่ะก็ จักรพรรดินีก็ทำหน้าที่ต่อโลกได้ยอดเยี่ยมเลยนะเนี่ยคราวนี้ อย่างน้อยนางก็สมควรได้รับรางวัลโนเบลในส่วนนี้นะ
“จี่เซียว เอามือถือมาหน่อย” เหยินปาเชียนพูด จักรพรรดินีหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าแล้วส่งให้เขา
เหยินปาเชียนกดปุ่มค้นหาบนหน้าจอ ในไม่ช้ารูปภาพของชายคนหนึ่งที่กำลังบรรยายก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เมื่อเปรียบเทียบชายคนในภาพกับชายมีหนวดเคราสวมเสื้อคลุมและหมวกสีดำที่กำลังหายใจหอบอย่างแรงอยู่ข้างหน้าเขาแล้ว เหยินปาเชียนจึงยิ้มออกมา
เขาไม่รู้จะพูดอะไรในตอนนี้ นี่ใช่สรวงสวรรค์หรือเทพีแห่งโชคลาภทรงโปรดเขารึเปล่า ? นี่ถือว่าเป็น “เคราะห์ร้ายที่มาพร้อมกับการให้พร” รึเปล่า ?
“ฝ่าบาทพบเค้าที่ไหน ?” เหยินปาเชียนมองจักรพรรดินีด้วยรอยยิ้ม เสียงของเขาเต็มไปด้วยความสุข
“ข้าเห็นผู้คนมากมายล้อมรอบเค้าตอนที่เค้าเดินออกจากบ้านน่ะ”
“ถ้าข้าน้อยขยับตัวได้ตอนนี้ล่ะก็ ข้าน้อยจะยกนิ้วให้เลย ฝ่าบาททำงานได้ดีมากขอรับ” เหยินปาเชียนพูดอย่างมีความสุข
เมื่อได้ยินคำพูดของเหยินปาเชียน จักรพรรดินีก็รู้สึกมีความสุขเล็กน้อยในใจอย่างอดไม่ได้เลยทีเดียว
“คุณคือ BGD ใช่มั้ย” เหยินปาเชียนย้ายสายตาไปที่ชายชุดดำพร้อมกับรอยยิ้มกว้างของเขา
เมื่อชายคนนั้นได้ยินเสียงของเหยินปาเชียน เขาจึงสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว จากนั้นเขาก็มองไปที่จักรพรรดินีด้วยสายตาหวาดกลัว เมื่อครู่นี้เขาได้ข้อสรุปภายในระยะเวลาอันสั้นแล้วว่า ความแข็งแกร่งของผู้หญิงคนนี้ผิดมนุษย์มนา
เขาสงสัยแม้กระทั่งว่านางถูกพระเจ้าส่งมาให้ลงโทษตนหรือเปล่า
“คุณเป็นใคร ?” BGD ฝืนใจตัวเองให้สงบแล้วถามเป็นภาษาอังกฤษ สีหน้าที่สงบนิ่งของเขาเป็นเพียงแค่ฉากหน้า
เมื่อได้ฟังคำถามของเขาแล้ว เหยินปาเชียนจึงใช้แอปพลิเคชันแปลภาษาเพื่อที่จะตอบกลับไป “คุณไม่ต้องสนใจหรอกว่าพวกเราเป็นใคร พวกเรามาที่นี่เพื่อมาหาของ คุณมีก๊าซซารินใช่มั้ย ?”
“พวกคุณต้องการใช้ทำอะไร ?”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ พวกเราจะออกไปตอนที่พวกเราได้ก๊าซซารินและยาแก้พิษของก๊าซนั้น ไม่งั้นล่ะก็พวกเราจะฆ่าคุณซะ ของพวกนี้ไม่ได้มีค่าสำหรับคุณเลย แถมคุณยังหาเพิ่มได้หลากหลายช่องทางเลยนะ ถึงยังไงก็เถอะ ผมคิดว่ามันไม่สำคัญเท่ากับชีวิตคุณเองนะ”
“และผมบอกได้เลยว่าพวกเราจะไม่ใช้ก๊าซนั้นกับคุณหรือทหารของคุณ” เหยินปาเชียนเสริม
“ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แล้วทำไมผมต้องเชื่อคุณด้วย ?” ดวงตาของ BGD เต็มไปด้วยความสงสัย หลังจากที่คุยกับเหยินปาเชียน เขาก็รู้สึกสบายใจเล็กน้อย เขาเชื่อว่าตราบใดที่เขายังสามารถเจรจาต่อไปได้ เขาจะมีชีวิตรอด ยังไงซะในฐานะผู้นำขององค์กร เขาจะต้องไม่ถูกข่มขู่ง่ายดายขนาดนี้
“มันอาจฟังดูธรรมดามากนะ แต่ผมก็ยังต้องบอกว่าคุณไม่มีทางเลือกอื่นแล้วในตอนนี้ แม้พวกเราจะฆ่าคุณไป แต่พวกเราก็ยังสามารถค้นหามันต่อไปได้ มาถึงตอนนี้คุณน่าจะได้เห็นทักษะของเค้าแล้ว ไม่มีใครหยุดเค้าได้ แม้แต่ทหารของคุณก็เถอะ มันไม่คุ้มค่าเลยที่จะมาถูกฆ่าด้วยเรื่องนี้ นอกจากนี้อุดมการณ์อันสูงส่งที่คนของคุณต่อสู้มานั้นอาจจมอยู่กับการแย่งชิงอำนาจหลังจากที่คุณตายไป คุณน่าจะรู้เรื่องนี้ดีกว่าผมนะ”
เหยินปาเชียนข่มขู่และสัญญาในเวลาเดียวกัน เขาเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า BGD ให้ความสำคัญกับชีวิตของตัวเองมากกว่าก๊าซซาริน ด้วยสถานะของเขาแล้ว เขาคงจะไม่สนใจว่าก๊าซซารินจะไปอยู่ในมือใคร
“ผมสัญญากับคุณได้เลยว่าจะให้ก๊าซซารินกับคุณ แต่คุณต้องสัญญาด้วยว่าจะไม่ทำร้ายผม” เช่นเดียวกับที่เหยินปาเชียนคิดไว้ ดูเหมือน BGD จะไม่ได้จริงจังกับการให้ก๊าซซารินกับตน
“ตกลง แล้วคุณเก็บก๊าซซารินของคุณไว้ที่ไหน” เหยินปาเชียนยิ้มแล้วถามออกมา
“มันถูกเก็บไว้ในฐานใต้ดิน สิ่งนั้นอันตรายมาก คุณตามผมมาเอาก็ได้” ดวงตาของ BGD เบิกกว้างขึ้น
“ผมว่าคุณกำลังโกหกพวกเราอยู่นะ บางทีผมน่าจะบอกให้คุณได้รู้ว่าคุณจะได้รับการปฏิบัติยังไงถ้าคุณไม่ซื่อสัตย์กับพวกเรา” เหยินปาเชียนกล่าวประโยคนี้แบบคำต่อคำพลางมองไปที่ BGD
วินาทีต่อมา BGD ส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่าสังเวชพลางประคองขาของตน จักรพรรดินีเหยียบลงไปที่กลางขาท่อนล่างแล้วหักมัน
“นี่เป็นเพียงการเตือนอย่างนุ่มนวลเพื่อให้คุณไม่ทำอะไรโง่ ๆ อย่าลืมนะว่าคุณมีผู้ใต้บังคับบัญชานับหมื่นชีวิตอยู่ในมือของคุณ มันไม่คุ้มค่าแน่ ๆ กับการสังเวยพวกเค้าเหล่านั้นเพียงเพื่อก๊าซซาริน”
“ผมรู้…ผมรู้ว่าควรทำอะไร คุณไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลย ผมไม่ได้โกหกคุณ” BGD พูดพึมพำด้วยความเจ็บปวดพร้อมเหงื่อที่หยดลงหน้าผาก
“ผมหวังว่าคุณจะไม่ทำอะไรโง่ ๆ นะ มั่นใจได้เลยว่าคุณจะยังคงเป็นผู้นำขององค์กรนี้อย่างสงบสุขต่อไปหลังจากที่พวกเราออกไปแล้ว ถ้าคุณไม่ฟังพวกเรา คุณก็จะกลายเป็นศพ” เหยินปาเชียนพูดย้ำ
อันที่จริงแล้ว เหยินปาเชียนไม่ได้รู้สึกมั่นใจนัก ยังไงซะ BGD ก็เป็นคนที่มีทหารนับหมื่นนายและควบคุมชีวิตผู้คนจำนวนมาก เขาไม่ได้รู้นิสัยใจคอของ BGD เป็นอย่างดี และเขาก็ไม่เคยมีประสบการณ์ในการรับมือกับเขามาก่อน
ดังนั้น เขาจึงทำได้เพียงแค่แยกเขี้ยวเพื่อข่มขู่เขา โดยหวังว่าเขาจะทำตามคำสั่งของตน
จากนั้นจักรพรรดินีก็แบก BGD กับกระเป๋าเป้ของเหยินปาเชียนแล้วจากไป เหยินปาเชียนถูกซ่อนไว้ตรงมุมแล้วรอคอยจักรพรรดินีตรงนั้น
มีเสียงร้องตะโกนและเสียงรถยนต์กำลังเคลื่อนที่รอบตัวเขา ดูเหมือนว่ามีทหารจำนวนมากกำลังค้นหาอะไรบางอย่างในเมือง
เหยินปาเชียนรู้ว่ามันจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนหลังจากที่ BGD หายไป ตำแหน่งปัจจุบันของเขาน่าจะปลอดภัยและทหารน่าจะไม่สามารถหาเขาพบในขณะนี้
เมื่อผ่านไปครึ่งชั่วโมง จักรพรรดินีก็ลงมาที่เขาทันที กระเป๋าเป้ในมือนางโป่งพอง มีกระสอบสีดำอยู่ในมืออีกข้าง ดูเหมือนว่ามันจะทำจากวัสดุเดียวกันกับเสื้อคลุมของ BGD
“นี่ใช่สิ่งที่พวกเรากำลังหามั้ย ?” จักรพรรดินีหยิบกระป๋องสีดำที่มีลักษณะคล้ายกับกระป๋องฝาดึงออกมาแล้วถาม
เมื่อมองดูขนาดของก๊าซซารินกับความใหญ่ของกระเป๋าเป้แล้ว เหยินปาเชียนจึงประมาณการว่าน่าจะมีก๊าซซารินอย่างน้อย 20 กระป๋องในกระเป๋าเป้ กระสอบสีดำจะต้องมีกระป๋องก๊าซซารินจำนวนเท่ากันด้วยเช่นกัน
“พวกเราจะรู้ตอนที่ได้ลองใช้” เหยินปาเชียนตอบกลับ เขารู้สึกว่าตนยิ่งกลายเป็นคนเลือดเย็นขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เห็นคุณค่าความสำคัญของชีวิตมนุษย์อีกต่อไป
หลังจากนั้นไม่นาน หน่วยทหารติดอาวุธเดินไปตามถนนเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นกระป๋องใบหนึ่งลอยออกมาจากความมืดและตกอยู่ใต้เท้าของพวกเขา
ทันใดนั้นเอง ทุกคนก็ยกปืนขึ้นแล้วตรวจสอบสิ่งรอบข้างพลางก่นด่าไม่หยุดหย่อน
อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไป 1 นาที ทหารสองสามนายที่ยืนอยู่ใกล้กับกระป๋องได้ทรุดตัวลงกับพื้นขณะที่กำคอไว้ ฟองสีขาวทะลักออกมาจากปาก
ภายใน 3 นาที ทุกคนนอนราบกับพื้น
หลังจากที่ได้เห็นเหตุการณ์นี้ในระยะไกล เหยินปาเชียนและจักรพรรดินีก็หายเข้าไปในฉากกลางคืน
“คน ๆ นั้นยังมีชีวิตอยู่หรอ ?”
“เพราะพวกเราได้สัญญากับเค้าไว้ว่าจะไว้ชีวิต ข้าจะไม่กลืนน้ำลายตัวเองเด็ดขาด” จักรพรรดินีตอบกลับไป มันจะเสื่อมเสียศักดิ์ศรีของนางในการทำเช่นนั้น
เหยินปาเชียนพยักหน้า ไม่มีการคัดค้านการตัดสินใจของจักรพรรดินี
โลกตั้งกว้างใหญ่ขนาดนี้ ทำไมเขาต้องกลัว BGD ตามล่าตนด้วยล่ะ ?
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเดินทางไปที่เก้าศาลาขณะนี้