ตอนที่ 184: กระทืบจนตาย
107 Views“ชายคนนั้นอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้วมีปัญหาในการเคลื่อนย้ายก็ได้นะ !”
“แล้วยังไงล่ะ ?” อีกคนตอบกลับไป พวกเขาจะไปทำอะไรได้หากเขาบาดเจ็บสาหัส
เฉิงอู่เป็นชายร่างผอมวัย 30 ปี เส้นบนใบหน้าของเขาดูราวกับว่ามันถูกสลักด้วยมีดหรือไม่ก็ขวานเล็ก เขายืนอยู่กับที่พร้อมกับสีหน้าลังเล
“กลับไปดูกัน !” หลังจากที่ลังเลเล็กน้อย เฉิงอู่ก็ตัดสินใจแน่วแน่
เมื่อชายคนนั้นได้ยินสิ่งที่เขาพูดและได้เห็นสีหน้าของเขา เขาจึงหลุดตะโกนออกมาทันที “นี่เจ้าบ้าไปแล้วรึไง ?”
ก่อนหน้านี้เฉิงอู่เป็นคนดึงเขาออกไป ตอนนี้เขาต้องการกลับไป เมื่อรวมกับสิ่งที่เขาพูดเกี่ยวกับชายที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้คนนั้นแล้ว จึงไม่ยากที่จะตีความหมายในสิ่งที่เขาวางแผนจะทำ
ดวงตาของเฉิงอู่เปล่งประกายแวววาว “พวกเราจะไปดูตรงนั้นกัน ถ้าชายคนนั้นบาดเจ็บสาหัสจริง ๆ ก็ปล่อยเจ้ากิเลนนั่นไปสิ การที่เค้าเชื่อมกับกิเลนไว้ อาจจะมีของมีค่าอยู่ในตัวชายคนนั้นก็ได้ พวกตำราศิลปะการต่อสู้หรือสมบัติหายาก เจ้าไม่อยากได้รึไง ?”
“เจ้านี่บ้าไปใหญ่แล้ว กิเลนมันยังอยู่ตรงนั้นนะโว้ย” ชายอีกคนประหลาดใจ ดูเหมือนว่าเฉิงอู่จะกล้าหาญและถี่ถ้วนอยู่เสมอ แต่เขาไม่คิดว่าจะกล้าขนาดนี้
“เมื่อกี้นี้เจ้ากิเลนนั่นก็ไม่ได้ตอบสนองอะไรมากนักหนิ ? พวกเราจะดูอยู่ห่าง ๆ ถ้าชายคนนั้นบาดเจ็บจนตายไปแล้วล่ะ ? ถ้าเป็นอย่างนั้นพวกเราก็สามารถไปเอามาได้ง่าย ๆ เลยนะ เจ้ากิเลนนั่นคงจะไม่อยู่คุ้มกันตลอดเวลาหรอกมั้ง ?” เฉิงอู่บอกความคิดเห็นของตนไป
“แต่ถ้าเค้าฟื้นขึ้นมาล่ะ ข้าเสียวว่าพวกเราทั้งคู่จะหนีไม่พ้นน่ะสิ” ชายอีกคนกังวลเล็กน้อย
“ตรวจสอบหน้างานกันก่อน ถ้าเค้ายังไม่ตายล่ะก็ พวกเราก็ใช้วิธีอื่นทำให้ตายได้ แต่กิเลนนั่นไม่ใช่มนุษย์ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีการรับรู้อย่างมนุษย์ ข้ามีของอยู่นี่ เข็มเจาะกระดูก 3 เล่ม ด้วยสิ่งนี้จะสามารถเจาะทะลุผิวหนังได้ไกล 100 ก้าว ข้าห่วงว่าชายคนนั้นอาจจะตายไปแล้วและเจ้ากิเลนนั่นก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นน่ะสิ” เฉิงอู่พูดเสริม”
เขาหยิบกระบอกออกมาจากกระสอบของตนขณะพูด เขาเขย่ามันตรงหน้าชายอีกคนสักพักหนึ่งก่อนจะนำใส่กลับเข้าไปในกระสอบ
“นี่เจ้ามีสิ่งนี้จริงหรือเนี่ย ?” ชายอีกคนรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้เห็นเขาหยิบสิ่งนั้นออกมา กระบอกนั้นวางขายแค่ที่ร้อยศาลาจักรกลเท่านั้นแถมยังมีราคาแพงมากด้วย มันสามารถยิงได้ถึง 3 รอบด้วยเข็มแต่ละเล่ม มันทั้งเงียบและเร็วมาก แม้แต่สุดยอดกงจักรดินที่เพิ่งจะเลื่อนขั้นขึ้นมาใหม่ก็ไม่สามารถสังเกตและทำให้ร่วงได้
“ก่อนหน้านี้ปี้ซู่เอาให้ข้ามา เธออาจจะไม่ตายถ้าเธอมีสิ่งนี้ไว้การป้องกันตัวเอง” ความขุ่นมัวปกคลุมไปทั่วดวงตาของเฉิงอู่ขณะพูด
“เพราะงั้นข้าก็เลยจะคว้าทุกโอกาสที่มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ข้าแข็งแกร่งขึ้น ไม่งั้นข้าจะไปล้างแค้นปี้ซู่ได้ยังไง ?” เฉิงอู่พูดพลางกัดฟัน
ชายอีกคนเข้าใจว่าเฉิงอู่รู้สึกอย่างไร ไม่ว่าใครก็ตามที่รุ่นน้องที่รักถูกฆ่าตาย สิ่งเดียวที่จะอยู่ในใจของคนคนนั้นย่อมเป็นการแก้แค้น การที่เฉิงอู่ทนอยู่จนถึงทุกวันนี้มันไม่ง่ายเลย
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนแผนของเฉิงอู่จะเป็นไปได้อย่างแน่นอน
ถ้าชายคนนั้นตายไปแล้ว กิเลนจะไม่คอยเฝ้าอยู่ตลอดอย่างแน่นอน
พวกเขาทั้งสองคนเพียงแค่เฝ้าดูอยู่ด้านข้างโดยไม่ให้ถูกพบตัว
มันจะไม่อันตรายมากนักหากพวกเขาเฝ้าดูห่าง ๆ
ชายอีกคนพยักหน้าเมื่อนึกถึงสิ่งนั้น “ข้าจะไปกับเจ้า แต่เอาให้แน่ใจนะ อย่าสะเพร่า ตรวจสอบหน้างานกันก่อน”
เฉิงอู่ยิ้มเล็กน้อยแล้วตบไหล่คู่ขาเบา ๆ แต่ก็คิดกับตัวเอง “ขอโทษนะ ข้าจะตายไม่ได้หากไม่ได้ล้างแค้น”
ยังไงซะ เหตุผลที่เขาต้องโน้มน้าวคู่ขาตนก็เพราะกิเลนตัวนั้นนั่นเอง ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งมีชีวิตในตำนานมีพลังอะไร
หากมีสิ่งใดเกิดขึ้น อย่างน้อยที่สุดเขาก็จะมีวี่แววความหวังเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ เฉิงอู่ก็สามารถวิ่งได้เร็วกว่าเขา
พวกเขาทั้งสองคนตัดสินใจ แต่ก็ไม่ได้รีบกลับไปที่นั่น พวกเขาเดินไปทางอื่นก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังที่แห่งนั้นอย่างระมัดระวัง
แม้ว่าเมื่อครู่นี้พวกเขาเพียงแค่เหลือบมองก่อนที่จะรีบออกไป เฉิงอู่ก็สังเกตเห็นต้นไม้ที่อยู่ใกล้กับเหยินปาเชียน นั่นหมายความว่าพวกเขาสามารถขยับเข้าไปใกล้กิเลนกับเหยินปาเชียนได้
ที่สำคัญที่สุด เหยินปาเชียนหันหน้าไปทางอื่น
พวกเขาใช้ทางอ้อมก่อนที่จะเคลื่อนที่ไปทางนั้นอย่างระมัดระวัง ไปอย่างเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้ที่ตรงนั้นแล้ว พวกเขาก็จ้องมองเข้าไปในป่าและได้เห็นพื้นที่โล่งแห่งนั้นอีกครั้ง
พวกเขาจ้องมองอย่างระมัดระวังและเห็นทั้งกิเลนกับชายตรงนั้น แต่มีอีกคนอยู่กับพวกเขา นั่นคือหญิงสาวชุดแดงที่ดูแปลกตา นางกำลังนั่งยอง ๆ อยู่ข้างชายคนนั้นและกำลังป้อนอะไรบางอย่างให้เขา
“ดันมีเพื่อนซะงั้น” ความคิดดังกล่าวแวบอยู่ในใจของพวกเขา
หญิงสาวคนนั้นจู่ ๆ ก็เงยหน้าขึ้นมองมาในวินาทีต่อมา สีหน้าของนางดูเยือกเย็น พวกเขาสามารถสัมผัสถึงจิตสังหารและเหยียดต่ำได้จากดวงตาของนาง แม้พวกเขาจะอยู่ห่างออกไปค่อนข้างไกลก็ตาม
“พวกเราถูกพบแล้ว..วิ่ง” พวกเขาหันหลังกลับแล้ววิ่งไป แสงจ้าจากหญิงสาวทำให้พวกเขาขนลุกไปทั่ว และพวกเขาก็รู้สึกราวกับว่าตัวเปียกโชกไปด้วยน้ำเย็นจัด พวกเขารู้ทันทีว่านางเป็นสุดยอด อาจจะยิ่งกว่าเจ้านายของพวกเขาซะอีก
จักรพรรดินีวางชามลงอย่างไม่รีบร้อน ในวินาทีต่อมานางก็หายตัวไปจากจุดที่นางอยู่แล้วปรากฏตัวไม่ไกลจากชายสองคนนั้น ในชั่วพริบตานางได้ปรากฏตัวอีกครั้งเหนือพวกเขา นางเหยียบย่ำลงไปบนหัวคนหนึ่งด้วยเท้าทั้งสองข้าง
แม้กระทั่งก่อนที่เขาจะมีเวลาตอบโต้ เขาก็ถูกตอกลงไปกับพื้นราวกับตะปูโดยมีแค่ผมเท่านั้นที่อยู่เหนือพื้น เขาถูกกระทืบจนตายคาที่
เฉิงอู่ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตร มองย้อนกลับไปเมื่อเขาได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลัง แต่แล้วก็พบว่าผมของคู่ขาเขาคือสิ่งเดียวที่เหลืออยู่เหนือพื้น และหญิงสาวคนนั้นก็มองมาที่เขาในขณะที่ยังยืนอยู่บนหัวของคู่ขาเขา สีหน้าของนางเต็มไปด้วยจิตวิญญาณวีรชนและดูเย็นยะเยือกปานน้ำแข็ง
เขาหยิบกระบอกขึ้นมาโดยทันที หญิงสาวที่ดูเย็นชาคนนี้แต่งตัวด้วยชุดสีแดง ประกอบกับกิเลนตัวนั้นแล้วทำให้เขานึกถึงรูปภาพตำนานรูปนั้น
คนคนนี้อยู่ที่นี่ เป็นไปได้ยังไงกัน ?
นอกจากนางแล้ว จะเป็นใครได้อีกล่ะ ?
จิตใจของเฉิงอู่ว่างเปล่าในขณะนี้ ดูเหมือนว่าแผนของเขาก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากเรื่องตลก
ว่าแต่นางมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเนี่ย ?
เป็นไปได้ยังไงกัน ?
ข้ามิอาจยอมรับได้ !
หินก้อนหนึ่งพุ่งจากใต้ฝ่าเท้าของหญิงสาวในวินาทีถัดไป มันพุ่งเข้าศีรษะของเฉิงอู่อย่างจังพร้อมกับเสียงทะลวง มันทะลุกะโหลกศีรษะของเขาและโผล่ออกมาจากอีกด้านหนึ่งพร้อมกับสมองและเลือดของเขา และมันก็ทำให้ความคิดทั้งหมดของเขาจบลงด้วยเช่นกัน
เฉิงอู่ก้าวอีกก้าวก่อนจะล้มลงกับพื้น ในตอนนี้มีรูว่างบนหน้าของเขาและเลือดได้สาดไปทั่ว
มันใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งนาทีที่จักรพรรดินีหายตัวไปและกลับมายังที่ที่นางอยู่ก่อนหน้านี้
“เกิดอะไรขึ้นขอรับ ?” แม้ว่าเหยินปาเชียนจะไม่สามารถขยับร่างกายได้ เขาก็ยังสามารถได้ยินเสียงอะไรบางอย่างกำลังวิ่งอยู่ในป่า มันทำให้เขาคิดทันทีว่านั่นคือชายสองคนที่เขาได้เห็นก่อนหน้านี้
“ก็แค่แมลงสองตัวน่ะ” จักรพรรดินีไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนั้น
เมื่อได้ยินจักรพรรดินีที่พูดถึงสองคนนั้น เหยินปาเชียนก็ค่อนข้างมั่นใจว่าต้องเป็นสองคนที่เขาได้เห็นก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน
พวกเขาจากไปแล้วกลับมาอีกครั้ง เขาจึงรู้ได้เลยว่าพวกเขาไม่ได้มาดี
แม้แต่ความตายก็ไม่สามารถลบล้างความผิดที่ได้กระทำลงไปได้
อันที่จริง เหยินปาเชียนได้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับจักรพรรดินีหลังจากที่นางกลับมา แต่เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนั้น นางไม่ได้ใส่ใจพวกเขาตราบใดที่พวกเขาไม่ปรากฏตัวต่อหน้านาง
จักรพรรดินีย่อตัวลง นางหยิบชามขึ้นมาแล้วป้อนโจ๊กครึ่งที่เหลือให้เหยินปาเชียน จากนั้นนางก็อุ้มเขาขึ้นไปบนหลังของกิเลนแล้วเดินทางต่อ
วันต่อมา พวกเขากลับมายังดาวโลกในขณะที่พวกเขาอยู่ในภูเขาเป็นระยะเวลาเดินทางออกจากเก้าศาลาประมาณหนึ่งวัน
ณ ตอนนี้ เหยินปาเชียนได้รับพิษไปแล้ว 9 วันครึ่ง และยังเหลืออีก 5 วันครึ่ง
ทั้งเหยินปาเชียนและจักรพรรดินีต่างตกตะลึงเมื่อพวกเขาปรากฏตัวบนดาวโลกก่อนที่จะมองดูสถานการณ์รอบตัว มีคนสองคนที่คลุมผ้าอยู่ด้านข้าง คนหนึ่งดึงผ้าคลุมลงเปิดให้เห็นหน้าของผู้ชาย เขาจับกางเกงของตัวเองไว้ ดูเหมือนว่าเขากำลังจะใช้ห้องน้ำ
เห็นได้ชัดว่าสองคนนั้นตกตะลึงเช่นกัน ปากของพวกเขาอ้าเล็กน้อยพร้อมกับดวงตาเบิกกว้างพลางมองชายหญิงที่ปรากฏตัวอยู่ด้านข้าง
ทั้งสองฝ่ายจ้องมองกันด้วยความรู้สึกตกตะลึง