ตอนที่ 182: เป้าหมาย: ก๊าซซาริน
148 Viewsเฉินชิ่งต้องการที่จะช่วยให้ทั้งเหยินปาเชียนและจักรพรรดินีสงบสติอารมณ์ เขาต้องการจัดหาคนมาดูแลเหยินปาเชียนโดยเฉพาะ แต่ทว่าความช่วยเหลือของเฉินชิ่งกลับถูกเขาปฏิเสธ
หลังจากที่เฉินชิ่งส่งทั้งสองคนกลับไป จักรพรรดินีก็วางเหยินปาเชียนไว้บนโซฟาแล้วไปนั่งด้านข้าง
ทั้งสองคนนั่งเงียบ ๆ ตลอดเย็นจนถึงดึก พวกเขากินอาหารกล่องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“จี่เซียว ไปพักผ่อนเถอะ” เหยินปาเชียนใช้เวลาทั้งคืนเพื่อแยกแยะกรอบความคิดของตัวเอง มันไม่มีประโยชน์เลยที่จะคิดเรื่องนี้ พวกเขาทำได้เพียงตั้งตารอความคืบหน้าที่ห้องทดลอง หรือไม่ก็มุ่งหน้าไปยังมหาจักรวรรดิเซี่ยเพื่อรับยาถอนพิษ
จักรพรรดินีไม่ได้ตอบเขา นางไปเปิดทีวีแทน
“ข้าอยากดูรายการทีวี” จักรพรรดินีกล่าวเพียงแค่นั้น
เหยินปาเชียนเก็บรอยยิ้มบนหน้าด้วยความยากลำบาก เขาถามออกมา “เก้าศาลานี่เป็นสถานที่แบบไหนขอรับ ?”
“เป็นแหล่งรวมคนบ้าน่ะ” จักรพรรดินีตอบกลับไปอย่างผิวเผิน
“คนพวกนั้นจะต้องแข็งแกร่งมากใช่มั้ยขอรับ ?” เหยินปาเชียนถามออกมา
“ไม่มีผู้ใดในโลกที่สามารถขัดขวางข้าได้หรอก” น้ำเสียงของจักรพรรดินีเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองอย่างแท้จริง
ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของจักรพรรดินีฟังดูแข็งขัน แต่เหยินปาเชียนก็สามารถบอกเป็นนัยได้ “นั่นหมายความว่าคนพวกนั้นแข็งแกร่งจริง ๆ ด้วย”
“พวกเราจะทำยังไงถ้าพวกนั้นไม่ต้องการให้พวกเราล่ะ ?”
“ถ้าข้าพูดออกไปแล้วถ้าพวกมันบังอาจไม่ให้ยาถอนพิษข้าล่ะก็ ข้าจะเล่นงานพวกมันให้ตายเพื่อให้พวกมันได้ไปกับเจ้าในงานศพของเจ้ายังไงล่ะ”
“หึหึ” คราวนี้เหยินปาเชียนยิ้มอย่างจริงจัง ตามที่คาดคิดไว้ นี่เป็นนิสัยปกติของจักรพรรดินี
หลังจากนั้นสักพัก ทั้งสองก็เข้าสู่ความเงียบงันอีกครั้ง มีเพียงเสียงของละครซีรีส์ราชวงศ์ชิงที่ยังคงดังอยู่ในหูของเขา
“หากแต่เพียงหัวใจของเจ้าไปอยู่ในใจใคร ความรักของข้าที่มีต่อเจ้าก็จะไม่เปล่าประโยชน์ ใครที่ได้เห็นมหาสมุทรจะไม่ได้คิดถึงห้วยหนองคลองบึงและไปฝังอยู่ในใจใคร แม้ว่าเรือนับพันลำลอยแล่นไป ข้าก็มิได้แม้แต่มองเพราะข้ามีตาไว้เพียงเพื่อมองเจ้า พูดยากนะว่าดวงดาวหรือดวงจันทร์อะไรงดงามกว่ากัน ถ้าหากเจ้าไม่ได้ก้มหน้าร้องไห้เพียงเพราะเจ้าคิดถึงดวงจันทร์ล่ะก็ บางทีเจ้าอาจจะสามารถมองดูท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยดวงดาวได้ ! นั่นก็มิได้ด้อยไปกว่าความงดงามของดวงจันทร์เช่นกัน ! ”
[นี่คือบทละครจากซีรีส์จีนชื่อดังเรื่อง ฝ่ามิติลิขิตสวรรค์ (步步惊心: Bù Bù Jīng Xīn)]
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้เหยินปาเชียนได้จมไปกับความคิดของตัวเองแล้ว จักรพรรดินีกำลังดูซีรีส์ด้วยดวงตาที่สดใสและเต็มไปด้วยอารมณ์ร่วม
เขาเป็นคนธรรมดาและฉีจี่เซียวเป็นถึงผู้ปกครองแคว้น อีกฝ่ายมีรูปร่างหน้าตาดีเป็นพิเศษและในทำนองเดียวกัน ทักษะการต่อสู้ของนางก็ไม่มีใครเทียบได้ แต่นางก็ยังสามารถปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้ได้ นางถึงกับพาเขาไปยังดินแดนของศัตรูโดยไม่ได้นอนหลับพักผ่อนเป็นเวลาหลายวัน นางพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามตลอดจนไปคว้ายาถอนพิษมาให้เขา
ทำไมนางถึงได้ทำเช่นนี้ล่ะ ? มันเป็นเพราะคำโกหกที่เขาพูด ? หรือเป็นเพราะเขามีค่าต่อต้าเย่า ? หรือเป็นเพราะนางมีอะไรให้เขา ? มันเป็นอะไรที่เหมือนกับสิ่งที่ไป๋จิงจิงมีให้กับจี้อจุนเป่ารึเปล่า ?
[ไป๋จิงจิงและจี้อจุนเป่า คือตัวละครในเรื่องไซอิ๋ว อภินิหารลิงเทวดา ภาคฮ่องกง]
มันเป็นเพราะข้อแรกกับข้อที่สาม ข้อแรกคือเหตุและข้อที่สามคือผล เขาไม่ใช่คนตาบอดหรือคนโง่ เขารู้ดีว่านางรู้สึกอย่างไร
ไม่ว่าจะมีข้อที่สองอยู่หรือไม่ มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไป
เพียงเพื่อมิตรภาพที่มีเฉพาะในนวนิยายและภาพยนตร์ จะมีอะไรให้เขาลังเลบ้าง ? เขาทำอะไรไม่ได้บ้าง ? ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดแล้วว่าต่อให้เขาจะต้องสร้างศัตรูทั่วทั้งโลก เขาก็เต็มใจที่จะทำอย่างนั้นหรือ ?
“ใช่แล้วล่ะ ต่อให้ต้องสร้างศัตรูทั่วทั้งโลก เราก็เต็มใจที่จะทำ” เหยินปาเชียนตอกย้ำความคิดในใจตัวเองอีกครั้ง
ในตอนนี้ เขาจะทำอย่างไรดีในขณะที่เขาอยู่ในสภาพเช่นนี้ ? เขาจะช่วยอะไรได้เมื่อถึงเวลา ? นอกจากนี้ยังแสร้งทำเป็นไม่อนุญาตให้ฝ่ายไปยังมหาจักรวรรดิเซี่ยเนี่ยนะ ?
เมื่อคิดอยู่พักหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างที่อาจเป็นประโยชน์ ถึงแม้ว่ามันจะเอามาได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่เอามาได้แล้ว ไม่ว่าจักรพรรดินีจะอยู่ที่เก้าศาลาหรือไม่นางก็วิ่งเข้าไปหาคู่ต่อสู้ที่ขวางทางนางในขณะที่ออกจากมหาจักรวรรดิเซี่ย สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากทีเดียว
“จี่เซียว ช่วยพาข้าขึ้นไปชั้นบนหน่อยขอรับ ? พอดีข้านึกถึงสิ่งที่อาจเป็นประโยชน์ต่อพวกเราขอรับ” เหยินปาเชียนพูดออกมาและความรู้สึกมุ่งมั่นฉายแววในดวงตาของเขา
ถ้าหากเรื่องนี้ถูกเปิดโปงในภายหลังจนตัวเขาเป็นที่ต้องการของคนทั้งโลกล่ะก็ เขาคงจะต้องหนีเอาชีวิตรอด
สำหรับพ่อแม่และญาติของเขา กรณีที่เลวร้ายที่สุดคือการที่ตัวเขาถูกส่งไปยังอีกโลก
“สิ่งนั้นคืออะไร ?” จักรพรรดินีหันมามองเขาด้วยคิ้วอันอ่อนโยนและดวงตาอันเปล่งประกายของนาง
“ก๊าซซารินขอรับ หนึ่งกิโลกรัมก็เพียงพอที่จะกำจัดผู้คนที่อยู่ในรัศมี 500 เมตรแล้วขอรับ” เหยินปาเชียนใช้น้ำเสียงอ่อนโยนกล่าวถึงสิ่งที่น่ากลัวเช่นนั้น นี่คือความมุ่งมั่นที่เขาเพิ่งได้สนับสนุน
“จนกว่าจะได้รับยาถอนพิษ จี่เซียว..หากประสบปัญหาเข้า เพียงแค่ต้องปามันออกไป ข้าเชื่อว่าอันตรายจะลดลงอย่างมากด้วยเจ้าสิ่งนี้ แต่ทว่ามันหามาได้ค่อนข้างยากขอรับ”
“เลิศ” จักรพรรดินีตอบโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ด้วยสิ่งของที่พลังทำลายล้างกว้างขวางขนาดนั้น นางไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจแต่อย่างใด
ต่อมา นางแบกเหยินปาเชียนขึ้นไปแล้วพาเขานั่งลงที่หน้าคอมพิวเตอร์ จากนั้นเหยินปาเชียนก็สั่งให้นางบูตเครื่องคอมพิวเตอร์ ตามด้วยวางมือไว้บนคีย์บอร์ด ราวกับว่านางกำลังกอดเขาและมือทั้งสองของนางก็จับมือของเหยินปาเชียนเอาไว้
หัวใจของเหยินปาเชียนสงบนิ่งเมื่อเขาได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเรือนร่างของจักรพรรดินี และสัมผัสได้ถึงเส้นผมของนางที่อยู่บนใบหน้าเขา
เขารู้สึกถึงความอ่อนโยนของฝ่ามือตลอดจนความอบอุ่นของนาง
เหยินปาเชียนฝืนยิ้ม หลังจากเหตุการณ์นี้ แม้ว่าเขาจะกลายเป็นอาชญากรที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดหลังจากการถอนพิษของเขาและกลายเป็นผู้ก่อการร้ายจากคนธรรมดา มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเขาในขณะนี้
เขารู้สึกอบอุ่นและมีความสุขมาก
“ทำไมเจ้าถึงหัวเราะล่ะ ?” จักรพรรดินีถามอย่างเย็นชา แต่เนื่องจากว่านางกำลังพูดอยู่ข้างหูเขา การกระทำที่ใกล้ชิดสนิทสนมเช่นนี้ทำให้หูของนางรู้สึกอบอุ่น
“เมื่อคนเรามีความสุขก็จะหัวเราะขอรับ ตราบใดที่ท่านยังอยู่ข้างข้า ข้าก็จะมีความสุขขอรับ” เหยินปาเชียนยิ้มกว้าง
“ข้าควรทำยังไงดี ? เร็วสิ” น้ำเสียงของจักรพรรดินีเริ่มเย็นลง แต่รอยยิ้มบนหน้าของเหยินปาเชียนกลับเริ่มกว้างขึ้น
แต่ปัญหาหลักยังคงเป็นเรื่องเร่งด่วน เหยินปาเชียนพิมพ์คีย์บอร์ดด้วยความยากลำบากมากในขณะที่จักรพรรดินีช่วยเขาเลื่อนหน้า เริ่มแรก พวกเขาได้พิสูจน์ระหว่างก๊าซพิษที่มีอานุภาพทั้งสองอย่าง สารวีเอ็กซ์และก๊าซซาริน สารวีเอ็กซ์เป็นพิษมากกว่า แต่ก๊าซรินเป็นสิ่งที่ตอบสนองความต้องการของเหยินปาเชียนได้ดีกว่า มันใช้เวลาในการออกฤทธิ์น้อยกว่าและให้ผลลัพธ์ได้รวดเร็วกว่า มันจะส่งผลกระทบต่อประสาทโดยตรงและตัดทอนพละกำลังของคู่ต่อสู้ลงอย่างมากแม้ว่ามันจะไม่ได้ฆ่าพวกเขาก็ตาม
มันตอบสนองความต้องการของเหยินปาเชียนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ต่อมา เขาก็ค้นคว้าเกี่ยวกับก๊าซซารินต่อไป ในไม่ช้าความสนใจของเหยินปาเชียนก็ถูกจดจ่อไปกับบทความข่าวไม่กี่เดือนก่อน
โรงงานขององค์กรที่ผลิตอาวุธเคมีและชีวภาพถูกสหรัฐฯ ทิ้งระเบิด
ในช่วงเดือนก่อนหน้านั้น องค์กรดังกล่าวเพิ่งจะเริ่มการโจมตีด้วยก๊าซซาริน
ข่าวนี้เกิดขึ้นไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ทว่ามันก็ส่งผลกระทบอย่างมากกับเหยินปาเชียนในขณะนี้
เพราะในการโจมตีครั้งก่อน มันถูกวินิจฉัยจากอาการของผู้รับเคราะห์ที่ถูกอีกฝ่ายใช้ก๊าซซาริน
แม้มันจะถูกทิ้งระเบิดเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เหยินปาเชียนก็รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะพบก๊าซซารินได้ที่นั่น
ยังไงซะ ก่อนการโจมตีครั้งนั้น พวกเขาไม่ได้ใช้ก๊าซซารินมากนัก ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะเก็บมันไว้ในมือเพื่อทำท่าว่าจะยับยั้ง
นอกจากนี้ การที่จะได้รับก๊าซซารินที่นั่นง่ายกว่ามากเมื่อเทียบกับการไปที่ประเทศสหรัฐฯ แล้วลองเสี่ยงดวงกับพวกเขา ถึงแม้ว่าการหาที่อยู่ของฐานใต้ดินในอินเตอร์เน็ตนั้นพอจะเป็นไปได้ แต่ใครจะรู้ล่ะว่ามีการจัดเก็บก๊าซซารินไว้ที่ไหน นอกเสียจากว่าพวกเขาจะจับนายทหารมารีดเอาข้อมูล
หลังจากที่พิจารณามาเยอะแล้ว เหยินปาเชียนก็ยังรู้สึกว่ามันเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าที่จะมุ่งหน้าไปยังองค์กรนั้นมากกว่าไปที่ประเทศสหรัฐฯ
ถึงแม้ว่าเขาได้ตัดสินใจไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่การหลีกเลี่ยงการเฝ้าระวังและดาวเทียมที่มีอยู่ทุกหนทุกแห่งในประเทศสหรัฐฯ นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพวกเขา ในตอนนี้ด้วยตัวเลือกที่ดีกว่าตรงหน้าเขา เขาจะล้มเลิกไอเดียที่เป็นอันตรายก่อน
สำหรับองค์กรที่มีชื่อเสียงนั้น ต่อให้พวกเขารู้ตัวว่าใครทำ พวกเขาจะทำอะไรได้ล่ะ ?
“จี่เซียว พวกเรากำลังจะไปดูกันที่ต่างประเทศ บางทีพวกเค้าอาจจะมีสิ่งที่พวกเรากำลังหาอยู่ก็ได้นะขอรับ” เหยินปาเชียนพูดออกมาพลางเอียงศีรษะไปด้านข้างเล็กน้อย
“เยี่ยม” จักรพรรดินีไม่ลังเลที่จะพยักหน้า
สิ่งต่อไปที่ต้องทำคือการหาคนมาจัดการพาสปอร์ตของทั้งสองคน
และจุดหมายปลายทางคือประเทศตุรกี
ทุกวันนี้ สถานการณ์ของประเทศนั้นไม่มั่นคงและไม่มีเที่ยวบินตรงจากสนามบินของพวกเขา
พวกเขาต้องเปลี่ยนเครื่องบินที่ประเทศตุรกีก่อนที่จะไปถึงประเทศนั้น
การได้รับวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับประเทศตุรกีนั้นง่ายดาย สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือสมัครออนไลน์แล้วพวกเขาก็สามารถรับมันได้หลังจากนั้นไม่กี่นาที
ปัญหาเพียงอย่างเดียวคือพาสปอร์ต โชคดีที่เฉินชิ่งสามารถช่วยเหลือเขาในเรื่องนี้ได้ ถึงแม้ว่าเฉินชิ่งจะไม่รู้ว่าเหตุใดเหยินปาเชียนถึงยังคงวิ่งเต้นไปทุกที่ในขณะนี้ แต่เขาก็รู้สึกว่าเหยินปาเชียนธรรมดา ๆ กลายเป็นคนที่เขาไม่สามารถอ่านใจได้อีกต่อไป ไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่เขาได้ทำไป สิ่งของแปลก ๆ เหล่านั้น และพิษชนิดนั้น หรือแม้แต่หญิงสาวข้างกายเขา
เหยินปาเชียนวางสายโทรศัพท์หลังจากที่ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเขาสามารถรับพาสปอร์ตได้ในบ่ายวันพรุ่งนี้ เขาอดยอมรับไม่ได้ว่าการมีเพื่อนที่มีอิทธิพลเช่นนี้ในชีวิตมันสำคัญ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง แต่ความสัมพันธ์ของเขาเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอสำหรับเขาแล้วที่จะแก้ปัญหาที่ยากลำบากสำหรับตัวเองเขา
เขาคำนวณเวลา พวกเขาจะมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงในวันพรุ่งนี้ทันทีที่ได้รับพาสปอร์ตแล้ว จากนั้นพวกเขาจะบินไปยังประเทศตุรกี
พวกเขาจะไปถึงวันพรุ่งนี้เวลาเที่ยงคืน
จากนั้น มันก็คงจะขึ้นอยู่กับดวงของทั้งสองคน